ปิดตำนานคดีประวัติศาสตร์ โครงการรับจำนำข้าว ศาลปกครองกลางพิพากษา ยกเลิกคำสั่งกระทรวงการคลัง เนื่องจากเป็นคำสั่งทางปกครอง ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย “ยิ่งลักษณ์”ไม่ต้องควักจ่าย 3.5 หมื่นล้านบาท
จากดคีประวัติศาสตร์ “โครงการรับจำนำข้าว” ซึ่งเป็นนโยบายในช่วง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และอายัดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาด จากเหตุขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่ เป็นทำให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย
ล่าสุด ศาลปกครองกลาง พิพากษา ยกเลิกคำสั่งกระทรวงการคลัง เนื่องจากเป็นคำสั่งทางปกครอง ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเหตุพิจารณาหลัก เนื่องจาก กระทรวงการคลัง ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหาย
โดยศาลปกครองกลาง อ่านคำและมีคำสั่งเพิกถอน คำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 20% หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ของความเสียหายทั้งหมด 1.78 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังให้เพิกถอนคำสั่งของกรมบังคับคดี กับพวกที่ออกคำสั่ง หรือประกาศใด ๆ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์
โดยพิจารณาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธาน กขช. ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง นอกจากนี้โรงการรับจำนำข้าวยังดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา เป็นนโยบายสาธารณะขนาดใหญ่ ใช้เงินเยอะ ย่อมมีการขาดทุน แต่ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง โดยผ่านการวิเคราะห์ของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธาน กขช. มีการนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาแล้ว
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มิได้มีการกระทำเพียงลำพังในการอนุมัติโครงการ หรืออนุมัติงบประมาณ จึงรับฟังไม่ได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และในฐานะ กขช. กระทำการจงใจ หรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต หรือเพิกเฉย ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จนเป็นเหตุให้ราชการเสียหายตาม มาตรา 10 ประกอบมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดฯ แต่อย่างใด