ปภ.เตือนภัยภาคใต้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก หย่อมกดอากาศต่ำอาจกลายเป็นไซโคลน

ภาพจากแฟ้ม

ภาคใต้ระวังฝนหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ปภ.เตือนพื้นที่เฝ้าระวัง 4 จังหวัด หลังกรมอุตุฯ ประกาศ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอาจกลายเป็นพายุไซโคลนพัดไปด้านอ่าวเบงกอลเหนือทะเลอันดามัน 

Advertisement

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับ กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 20-22 มีนาคม 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน คาดว่าจะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือ เข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน เและเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมา ทำให้มีลมพัดปกคลุมทางด้านตะวันตกของประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นบริเวณภาคเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาตใต้ฝั่งตะวันออก และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสาน 4 จังหวัดภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2565 ในพื้นที่ จังหวัดระนอง ในพื้นที่ทุกอำเภอ พังงา ในบริเวณพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ ตะกั่วทุ่ง คุระบุรี กะปง ตะกั่วป่า และท้ายเหมืองภูเก็ต ในบริเวณพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองภูเก็ต ถลาง และกะทู้ กระบี่ ในบริเวณพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองกระบี่ เขาพนม และปลายพระยา

ภาพจากแฟ้ม

โดยได้ประสานให้จังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากประเมินแล้วมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด

ภาพจากแฟ้ม

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมความพร้อมมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น หากได้รับความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย”รวมถึง สายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป