รัฐบาลเก็บภาษีเยอะ ต้นเหตุน้ำมันแพง?หรืองานนี้ปตท. เป็นแค่ “แพะ”

แบะๆๆๆๆๆๆ ถ้าร้องได้ ปตท.ก็คงอยากจะร้องแบบนี้ เมื่อต้องกลายเป็น จำเลยของสังคม โดยเฉพาะโลกโซเชียลที่กระหน่ำ “แบน” เชิญชวนให้ไม่เข้าไปเติมน้ำมันในปั๊มปตท.พร้อมภาพและคลิปที่อ้างกันว่า ปั๊ม “ปตท.ในหลายพื้นที่แทบร้าง”  เพราะจากกระแสกระหน่ำเชิญกระหน่ำไลค์ กระหน่ำแชร์ เหมือนว่า “คนก็อาจจะเอาด้วยแหะ”
ช่วงนี้ น้ำมันแพง ก๊าซหุงต้มแพง สินค้าและบริการหลายๆ อย่าง จ่อขึ้นราคากันเป็นแถว คนก็หันไปด่า ปตท. ในเรื่องดูด ก๊าซ น้ำมัน ในประเทศ จนเหลือส่งไปขายเมืองนอก ทำไมคนไทยตัองใช้น้ำมันแพง ในราคาตลาดโลก และยิ่งเอาไปเปรียบเทียบกับ น้ำมัน มาเลเซีย ของเขาราคาลิตรละไม่ถึง 20 บาท จึงเกิด “คำถาม” ตามมามากมายว่า  ทำไม? “ปตท.” ถึงโหดร้ายกับประชาชน
คำตอบของเรื่องนี้ก็คือ “รัฐบาล” ครับ เป็น “ต้นเหตุ” ที่ทำให้น้ำมันแพง!!!

Advertisement

ที่ราคาน้ำมันแพง เป็นเพราะว่า รัฐบาลไทย เก็บภาษีเยอะมาก เกือบลิตรละ 15 บาท ซึ่งถ้าเทียบราคา “เนื้อน้ำมัน” จริงๆ โดยไม่เก็บภาษี ราคาน้ำมันของ ปตท. ก็เท่ากับ มาเลเซีย น่ะแหละ คือ ลิตรละ 18 – 19 บาท แต่ของเราแพงกว่า เพราะ มาเลเซีย “ไม่เก็บภาษีน้ำมัน” ของเขาเลยถูกกว่าของเราเยอะ เกือบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

อีกคำถามหนึ่งก็คือ ประเทศไทย มีน้ำมันมากจนเหลือขาย ทำไมคนไทยต้องใช้น้ำมันราคาตลาดโลก ทำไมไม่ขายราคาถูกให้คนไทย? มีคำพูดตลอดเวลาว่า ไทยผลิตน้ำมันไม่พอใช้ แต่ตัวเลขการผลิตจากแหล่งต่างๆ เหมือนถูกปกปิดเอาไว้ ขนาดค้นหาใน google ยังไม่ได้ข้อมูลที่เป็น “ทางการ” อย่างแท้จริง ซึ่งไม่รู้ว่าเราผลิตได้วันละเท่าไหร่กันแน่?
จากการให้สัมภาษณ์ของ “ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน ก็พูดแต่เพียงทิศทางการใช้พลังงานในประเทศเท่านั้น โดยกล่าวว่า
“สำหรับทิศทางพลังงานในปี 2561 นั้น คาดการณ์ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2561 จะส่งผลให้การใช้พลังงานขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 2.1% หรือใช้วันละประมาณ 2.81 ล้านบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่จะมีการใช้ลดลง เนื่องจากนโยบายการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของภาครัฐ”
ดูจากคาดการณ์ตัวเลขการใช้น้ำมัน ปริมาณค่อนข้างเยอะ คือวันละ 2.81 ล้านบาร์เรล แล้วเราดูดในประเทศ จะเพียงพอหรือเปล่า ถ้าไม่พอก็ต้องนำเข้ามาให้เพียงพอกับการบริโภค…

ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)

จากตัวเลขหลุมน้ำมันในไทย ที่เผยแพร่ตามอินเตอร์เน็ต ระบุว่า ประเทศไทย มีแหล่งขุดเจาะน้ำมัน 7,782 หลุม ขุดเจาะจริง 2,301 หลุม ผลิตน้ำมันได้วันละ 7.8 แสนบาร์เรล ถ้าเทียบตัวเลขกับที่ โฆษกพลังงานบอกว่า เราจะใช้วันละเกือบ 2.81 ล้านบาร์เรล แสดงว่า ไทยผลิตเองไม่พอใช้ ต้องนำเข้ามาวันละ 2 ล้านบาร์เรล เอาเป็นว่าต้องนำเข้ามาเยอะมาก!
       นั่นซิ เมื่อต้อง “นำเข้า” มาเยอะมาก แล้วเอาที่ไหนไปส่งออกได้อีก ในเมื่อมันไม่พอใช้ ตรงนี้ก็เป็นคำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้ชัดเจนเหมือนกัน!
ราคาน้ำมันของ มาเลเซีย วันนี้ ลิตรละ 17 – 19 บาท ตามแต่ละประเภท เป็นราคาที่ “บวกกำไร” ของผู้ค้า เอาไว้แล้ว แสดงว่า ราคา “เนื้อน้ำมัน” จริงๆ ตามตลาดโลก ก็น่าจะอยู่แถวๆ ต่ำกว่าลิตรละ 15 บาท
ดังนั้น เมื่อรวมภาษีต่างๆ ที่ รัฐบาลไทย จัดเก็บ ทั้งจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต ภาษีท้องถิ่น ภาษีหัวจ่าย รวมถึงเก็บเงินเข้า “กองทุนน้ำมัน” ก็จะตกลิตรละ 15 บาท
กลายเป็นว่า การที่น้ำมันของไทยแพงมาก มีสาเหตุมาจาก รัฐบาลเป็นต้นเหตุ เพราะเก็บภาษีตลอดทาง ตั้งแต่ ภาษีหน้าโรงกลั่น มายันหัวจ่ายที่หน้าปั๊ม เก็บซ้ำซ้อนหลายทอด และทั้งหมดให้ “ประชาชน” เป็นคน “แบก” เพราะผู้ค้าปลีก ก็จะบวกเข้าไปในราคาขายปลีกทั้งหมด
ในภาวะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เป็น “ขาขึ้น” ถ้าจะให้ราคาน้ำมันถูกลงจริงๆ “รัฐบาล” นั่นแหละ ต้องลด “ภาษีน้ำมัน” ลงมา
ที่ทำได้ทันทีเลยก็ “ภาษีสรรพสามิตร” ที่เก็บประมาณลิตรละ 7 บาท และลดนำเงินเข้า “กองทุนน้ำมัน” ประเภทต่างๆ ลงมา เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน แต่รัฐบาลไม่เห็นขยับอะไรในเรื่องนี้…มีแต่บอกว่า “ให้ประชาชน เสียสละ”!!
        ดูเหมือนไม่ทันการณ์แล้ว เพราะ ทั้ง ค่าเครื่องบิน ค่ารถโดยสาร ค่ารถบรรทุก ทุกอย่าง ประกาศขอขึ้นราคากันหมด ยังไม่รวมถึง ราคาสินค้าต่างๆ ที่เตรียมขยับราคาขึ้นแทบทุกประเภท ถ้าราคา “ขนส่งสินค้า” ปรับเพิ่มขึ้น
เรื่องน้ำมันแพง เป็นเรื่องใหญ่ แต่อยากให้คนไทยเข้าใจ “โครงสร้างราคาน้ำมัน” จะได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว มันแพงเพราะอะไร?
คำตอบเดียวก็คือ “รัฐบาล” ไม่ใช่ “ปตท.” เหมือนที่กำลังพาด่า พาแบนกันอยู่ในขณะนี้ งานนี้ ปตท. เป็นอาจเป็นแค่ “แพะ” แบะๆๆๆ

 

เทวัญ จงกลรอด