ใกล้อวสาน!!! มหา’ลัย ยอดตก เด็กหันหาสายอาชีพ

ใครจะคิด เด็กเลิกเรียนต่อมหาวิทยาลัย มุ่งเรียนสายอาชีพ หางานทำ พบภาพรวมสอบ TCAS ปี 61 เด็กสมัครสอบ 8 หมื่นคน น้อยกว่าโควตารับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่รับได้ 1.2 แสนคน อธิการ มทร.ธัญบุรี แนะ สถาบันอุดมศึกษารัฐ-เอกชน เร่งปรับตัว

Advertisement

รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี  เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ติดตามข้อมูลในภาพรวมเกี่ยวกับจำนวนนักเรียนที่สมัครเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาด้วยระบบ TCAS (Thai University Central Admission System) ประจำปีการศึกษา 2561 พบว่ามีเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ กว่า 8 หมื่นคน ในขณะที่สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ สามารถรับนักศึกษาได้กว่า 1.2 แสนคน

ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปีนี้มีเด็กที่จะเข้าสู่การเรียนระดับอุดมศึกษาลดลง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเด็กจำนวนหนึ่งหันเข้าสู่อาชีพก่อน โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลให้ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนจะขาดแคลนหรือมีตัวเลขเด็กที่จะเข้ามาเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะส่วนใหญ่แล้วนักเรียนจะมุ่งเข้าสู่มหาวิทยาลัยของรัฐก่อน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ชื่อเสียงและค่าเล่าเรียนที่ถูก

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยที่เปิดการเรียนการสอนภาคพิเศษ เช่น เรียนวันเสาร์-อาทิตย์เรียนเฉพาะภาคบ่าย ก็ได้รับผลกระทบในเรื่องจำนวนนักศึกษาลดลงเช่นเดียวกัน เพราะเด็กจะมุ่งสู่การเรียนภาคปกติเป็นหลัก จะมีคนมาสมัครเข้าเรียนบ้างก็อาจจะเป็นหลักสูตรต่อเนื่อง เช่น ผู้ที่จบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และเป็นคนที่ทำงานแล้ว จึงจะสมัครเรียนภาคพิเศษ

ในส่วนของการติดตามข้อมูลยังพบสาขาวิชาในกลุ่มสังคม กลุ่มศิลปะมีตัวเลขลดลงพอสมควร แต่ในกลุ่มวิศวกรรม กลุ่มอาหาร กลุ่มคอมพิวเตอร์ ยังถือว่าได้รับความสนใจจากนักศึกษาสมัครเข้าเรียนต่อเป็นจำนวนมาก และที่น่ายินดีก็คือกลุ่มที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมใหม่ กลุ่มสุขภาพ มีนักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าเรียนเต็ม

ขณะที่สิ่งที่สถาบันอุดมศึกษาจะต้องคำนึงและจะต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดก็คือ 1.ต้องเน้นการเรียนการสอนในหลักสูตรที่มุ่งสู่อาชีพในอนาคต 2.หลักสูตรที่ขาดความชัดเจนในการประกอบอาชีพจะไม่ได้รับความสนใจจากนักศึกษาอีกต่อไป

ดังนั้นแต่ละหลักสูตรที่เปิดสอนจะต้องบอกได้ว่าจบไปแล้วสามารถไปประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง ทุกวันนี้ก่อนนักเรียนจะเข้าศึกษาต่อจะมีการศึกษาหาข้อมูลมากขึ้นก่อนตัดสินใจ ผิดกับอดีตที่จะเรียนตามเพื่อนและรู้จักหลักสูตรก็ต่อเมื่อเข้าเรียนแล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีมหาวิทยาลัยทยอยปิดหลักสูตรที่ไม่มีนักศึกษาสมัครเรียน ทั้งจะมีมหาวิทยาลัยที่มุ่งเป้าไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางมากขึ้น และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดหลักสูตรภาคพิเศษเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไป

“ นักศึกษาที่หายไปจากระบบบางคนเข้าสู่อาชีพ ซึ่งตนยังเชื่อว่าเด็กยังมีความต้องการที่จะเรียนต่อ เพียงแต่ระบบที่เด็กจะเข้าเรียนนั้น ต้องเอื้อต่อการทำงานเช่น ระบบออนไลน์ ดังนั้นวันนี้สถาบันอุดมศึกษาจะต้องไม่ใช่จัดการเรียนการสอนเพื่อนักเรียนระดับ ม.6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)  แต่ต้องกลับไปมองกลุ่มที่ทำงานควบคู่ไปกับการเรียน พร้อมทั้งจัดหลักสูตรระยะสั้นเพื่อตอบสนองกลุ่มนี้ มหาวิทยาลัยต้องปรับตัวและเตรียมตัวกับการเรียนการสนที่จะเปลี่ยนไป รวมทั้งมุ่งทำงานร่วมกับเอกชนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์สร้างกำลังคนให้ถูกกับงาน และสามารถทำงานได้จริง ” อธิการบดี มทร.ธัญบุรี

อย่างไรก็ตาม มหาลิทยาลัยจะต้องจัดหลักสูตรใหม่ให้นักศึกษามีองค์ความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีความรู้แบบครบวงจร เพราะทุกวันนี้นักศึกษาเรียนไม่ได้คิดเฉพาะประกอบอาชีพแต่มีความต้องการเป็นผู้ประกอบการด้วย