อธิบดีกรมอุตุฯ ออกประกาศ เตือนภาคใต้-ภาคตะวันออก ระวังฝนหนักน้ำท่วมฉับพลัน อิทธิพลพายุดีเปรสชั่น “คีโรกี” ส่วนพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 7 วันเผย กทม.-ปริมณฑลเจอฝนถึงวันที่ 21 พ.ย. นี้ ก่อนจะมีอากาศเย็นลง 1-3 องศาฯ
จากประกาศฉบับที่ 9 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับพายุ ดีเปรสชัน “คีโรกี” ที่จะมีผลต่อประเทศไทย โดยจะส่งผลกระทบส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศ โดยประกาศฉบับดังกล่าวลงนามโดย นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุโดยสรุปว่า พายุดีเปรสชัน “คีโรกี” จะมีผลไปจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 โดย เมื่อเวลา 16.00 น. ของที่ 19 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา พายุดีเปรสชัน“คีโรกี” (KIROGI) บริเวณทะเลชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งเมืองโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนผ่านประเทศกัมพูชาและเข้าปกคลุมอ่าวไทยตอนกลางในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. 60

โดยจะส่งผลให้ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ซึ่งพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ ในช่วงวันที่ 19 -20 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว และคาดว่าจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะเวลาดังกล่าวไว้ด้วย และขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
ส่วนพยากรณ์สภาพอากาศทั่วไป (7 วัน) จากกรมอุตุฯ ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงและอากาศจะเย็นลง ส่วนภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และในช่วงวันที่ 22-25 พ.ย.ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ข้อควรระวังขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นลงตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนชาวเรือในบริเวณอ่าวไทยและอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ชาวเรือในบริเวณอ่าวไทยและอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 22-25 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาพจากแฟ้มข่าว