ไม่ล็อกดาวน์ประเทศ!!“ลุงตู่”ย้ำแก้โควิดระบาดเน้นคุมโซนพื้นที่หยอดหวานรักทุกเท่ากัน

ถอนหายใจผ่านหน้ากากได้!! นายกฯ ย้ำ ไม่ล็อกดาวน์ประเทศ เน้นคุมเป็นโซนๆ จับตาพื้นที่เสี่ยงตามลำดับ คุมกิจกรรม ย้ำเสียดายช่วงปีใหม่ควรเป็นเวลาแห่งความสุข แต่ต้องคุมเข้มเพื่อแก้สถานการณ์

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. (ชุดใหญ่) โดยระบุว่า “ที่ประชุมจะมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด​และการติดเชื้อ โควิด-19  19 รวมถึงการป้องกันการแพร่ระบาด​ที่ จ.สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม อยุธยากรุงเทพฯ และแนวชายแดน โดย ยืนยันไม่ล็อกดาวน์ประเทศ แต่จะเป็นการแบ่งโซนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงไปต่ำ เพื่อใช้มาตรการควบคุม และป้องกันให้เข้มข้นเหมาะสมตามสถานการณ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) คือจังหวัด สมุทรสาคร พื้นที่ควบคุม ที่ติดกับสีแดง พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10 ราย (4 จังหวัด) กรุงเทพฯ สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม พื้นที่เฝ้าระวังสูง ที่ยังมีผู้ตัดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มคุมได้ (25 จังหวัด) สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อุตรดิตถ์ ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต เพชรบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี กระบี่ ขอนแก่น ชัยนาท อุดรธานี พิจิตร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ อ่างทองพื้นที่เฝ้าระวัง คือ จังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการจัดงานและการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ว่าอยากให้เป็นไปตามความเหมาะสม โดยที่ประชุมจะรับทราบความคืบหน้าการพัฒนาและการผลิตวัคซีนโควิด -​19 พิจารณามาตรการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2564 รวมถึงมาตรการเพื่อบรรเทาและช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19

รวมทั้งขอให้กำลังใจให้ทุกคนทำให้สำเร็จอีกครั้ง แต่อย่าประมาทหรือชะล่าใจ ต้องพิจารณาจากบทเรียนครั้งก่อน หากเราไม่ประมาท และ ปรับปรุงมาตรการให้มีประสิทธิภาพ ก็จะไม่พ่ายแพ้ ดังนั้น ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจด้วยความสามัคคี เราจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

“สิ่งที่เสียใจคือช่วงเวลาปีใหม่ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุข แต่กลับต้องเพิ่มความเข้มงวดในระดับสูงสุด อีกประเด็นสำคัญ คือ มีแรงงานต่างด้าวกระจายทั่วประเทศ ทั้งสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานเหล่านี้ ก็เอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย จึงต้องเฝ้าระวังและตรวจตราอย่างเข้มข้น การ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง และ ในสถานการณ์เช่นนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตกต่ำ จะต้องถูกพิจารณาควบคู่กับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญด้วย โดยนายกรัฐมนตรียืนยันอีกว่าจะดูแลคนไทยทั้ง 70 ล้านคนให้ดีที่สุด และรักทุกคนเท่าๆ กัน พร้อมฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่