อาจารย์นิด้าชี้สาเหตุต้องแยกโต๊ะรับประทานอาหาร

 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชา Business Analytics and Intelligence และ Actuarial Science and Risk Management คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า ที่มีคนโวยวายว่า ก็ต้องกินข้าวโต๊ะเดียวกันในร้านอาหารได้สิ หลังจากเปิดผ่อนคลายให้กินข้าวในร้านอาหารได้

Advertisement
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชา Business Analytics and Intelligence และ Actuarial Science and Risk Management คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

คนไทยนี้อ้างเหตุผลว่า นโยบาย คำสั่งของรัฐบาลงี่เง่า ก็มารถคันเดียวกัน 4-5 คน เบียดกันมา ทำไมจะกินข้าวโต๊ะเดียวกันไม่ได้ จะเป็นอะไรไป ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกัน

ผมขออธิบายว่า ที่รัฐบาลสั่งนั้นถูกต้องแล้วตามหลักการทางระบาดวิทยาในการป้องกันการแพร่เชื้อโรค

ประการแรก ตอนนั่งรถมาใส่หน้ากากอนามัยกันมาบนรถ ไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัยออกเหมือนตอนนั่งกินข้าวในร้าน

ประการสอง ที่พูดคุยกันในรถ ก็ไม่ได้เปิดหน้ากากอนามัย แต่มากินข้าวที่ร้าน ถอดหน้ากากอนามัยออกก่อนกิน (ไม่งั้นจะกินได้ไง) และตอนกินตอนเคี้ยว ฝอยละอองน้ำลายกระเด็นกันไปเท่าไหร่ แพร่เชื้อกันไปขนาดไหน ก็ต้องไปลองคิดดู

ประการสาม มีเคสที่เกิดการติดเชื้อจากการกินสุกี้ยากี้ต้มเดือดๆ หม้อเดียวกัน ร้อนๆ เชื้อโควิด-19 ตายหมด อ้าวฝอยละอองน้ำลายตอนอ้าปากเคี้ยว มันไม่ได้ลงหม้อสุกี้ยากี้เดือดๆ ทุกละอองฝอยสักหน่อยหนาออเจ้า ยังหายใจรดกันอีกตอนสุมหัวลวกสุกี้ยากี้ เคสนี้ที่ร่วมหม้อสุกี้ยากี้กัน ปรากฏว่าติดโควิดกันหมด

ผมขอยืนยันว่า เวลากินให้แยกโต๊ะกินกันโต๊ะละคนถูกหลักการแล้ว แม้จะไม่ถูกใจ แต่ระงับป้องกันการแพร่เชื้อได้ อ้อ ในรถเป็นพื้นที่ส่วนตัวจะทำอะไรก็ทำไป แต่ในร้านอาหารมีคนอื่นนั่งกินด้วยเป็นพื้นที่สาธารณะ เข้าใจคำว่าพื้นที่สาธารณะไหม?

ภาพจากเว็บไซต์ประเทศจีน