รีบไปต่อไม่รอAIเหรอ?“สมคิด –อุตตม –ศักดิ์สยาม”หาเงินอุ้มบินไทยด่วนเดือดร้อนหนักมาก

5 พันยังไม่โอนนะ! … “สมคิด –อุตตม –ศักดิ์สยาม” ชี้การบินไทยเดือดร้อนหนักมาก เล็งอัดฉีดเงินช่วยด่วน ประชุมหาแนวปรับองค์กร เชื่ออาทิตย์เดียวรู้เรื่อง วอนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารเจ้าจำปีเสนอก.คลังขอเงินกู้กว่า 7 หมื่นล้านบาทแก้วิกฤติขาดทุน

Advertisement

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมแผนฟื้นฟูวิกฤตการบินไทย ซึ่งมีกระทรวงและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม รวมถึงเอกชนรายใหญ่ อีกหลายราย โดยรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า “การบินไทยประสบปัญหา และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงอยากดูแลให้กลับมาเป็นองค์กรที่เข้มแข็งกว่าเดิม โดยในแผนจะดูแลหลายองค์ประกอบร่วมกัน ทั้งเรื่องการเงิน การแข่งขัน การดูแลโครงสร้าง และด้านของบุคลากร

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

“ วันนี้ทุกฝ่ายอยากเห็นการบินไทยบินกลับมาได้ ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกัน โดยในที่ประชุมจึงได้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมาวางแนวทางการฟื้นฟูการบินไทย ให้กลับมาได้ใน 3-6 เดือนข้างหน้า รวมทั้งวางแผนระยะยาว ส่วนจะยังมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไปหรือไม่จะต้องมีการหารือในคณะทำงานต่อไป”

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า  “การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการหารือเรื่องการขายหุ้นการบินไทยให้ภาคเอกชนแต่อย่างใด ส่วนจะมีการเพิ่มทุนหรือลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะทำงาน

ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมระบุสั้นๆ ว่า “อยากเห็นการบินไทยกลับมาแข็งแรง โดยจะมีการสรุปแนวทางทั้งหมดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า รวมถึงส่วนรายละเอียดของการใช้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องเร่งด่วนด้วย”

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ การบินไทยประสบปัญหาขาดทุนและกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดบินในประเทศและนอกประเทศเกือบทุกเส้นทาง ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อเสนอโดยฝ่ายบริการการบินไทย ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม อนุมัติเงินกู้จำนวนกว่า 70,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อนำมาบริหารจัดการและฟื้นฟูการบินไทย และอาจต้องใช้เม็ดเงินมากกว่านั้นหากวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ยังคงยืดเยื้อ