“ขี่กระเช้าข้ามน้ำไปไหว้พระ!”..เรื่องจริงในเมืองไทยนี่แหละ ไม่ใช่ต่างประเทศที่ไหน แถมใกล้นิดเดียว แค่บางปะอิน จ.อยุธยานี่เอง
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เองการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ได้จัดพาสื่อมวลชนไปเที่ยวชมวิถีชีวิตริมน้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดอยุธยา ทีมงานของเราได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระที่วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร บอกตรงๆว่าถ้ามาถึงบางปะอินแล้วล่ะก็พลาดไม่ได้เลยกับการนั่งกระเช้าล้ามคลองเจ้าพระยา คลองที่ขุดชักน้ำเข้าไปใช้ในพระราชวังบางปะอิน ทำให้ที่ดินตรงนั้นกลายเป็นเกาะ และเป็นที่ตั้งของวัดแห่งนี้ 
“วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารว”เป็นวัดในฝ่ายธรรมยุทธ์บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และที่อดสะดุดตาสะดุดใจไม่ได้คือสิ่งปลูกสร้างของที่นี่เป็นแบบตะวันตกทั้งหมด มองดูเผินๆ อาจเข้าใจว่าเป็นโบสถ์คริสต์โดยเฉพาะพระอุโบสถ เป็นแบบโกทิกซึ่งภายในประดิษฐาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” เป็นพระประธาน โดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการทรงออกแบบ
โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม และศิลปะแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน นอกจากนี้ บริเวณฐานชุกชีก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์ และฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าของพระประธานนั้น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ที่ประดับด้วยกระจกสี งดงามวิจิตรมาก
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามอีกมากมาย อาทิเช่น หอพระคันธารราษฎร์ เป็นหอพระภายในประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ ปางขอฝน หอพระพุทธศิลา เป็นหอพระภายในประดิษฐานพระพุทธศิลา ปางนาคปรกสมัยลพบุรี พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระพุทธรูปทรงม้า และสุสานสวนหินดิศกุลอนุสรณ์ เป็นสวนหินสำหรับประดิษฐานพระอัฐิของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่ 4 และราชสกุลดิศกุล
วัดแห่งนี้ล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2419 เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศลใกล้กับพระราชวังบางปะอิน ซึ่งตอนนี้วัดนี้มีอายุถึง 140 ปี และที่นี่ร่มรื่นก็เพราะมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นใหญ่ที่เสด็จท่านได้ทรงปลูกไว้ในปีไล่เลี่ยกับการก่อสร้างวัดแห่งนี้นั่นเอง
