ตั้ง 3 ข้อหา “ธนาธร” ตัวแทนทูต UN-EU ร่วมสังเกตการณ์

เหล่าฟ้าพรึ่บแห่ให้กำลังใจ “ธนาธร” ชู 3 นิ้วรับทราบข้อกล่าวหา ม. 116 ขณะที่ตัวแทนสถานทูต 10 ประเทศ ร่วมสังเกตการณ์ด้วย เจอ 3 ข้อหา ยุยงปลุกปั่น-ช่วยเหลือผู้ต้องหา-มั่วสุมสิบคนขึ้นไป ขึ้นศาลทหาร

Advertisement

ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และมาตรา 198 ช่วยเหลือช่วยเหลือหรือให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา โดยมีกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมร้องตะโกนว่า “เซฟธนาธร” ซึ่งบางส่วนได้สวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำพรรค และบางส่วนได้สวมเสื้อรูปนายธนาธร พร้อมข้อความ “6 April” “#savethanathorn” พร้อมกันนี้ยังมีการแสดงออกสัญลักษณ์ เช่น การนำปี๊บระบุชื่อ กกต.มาคลุมหัว โดยด้านหลังมีภาพงูเห่า


นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากสถานทูต 10 ประเทศ ทั้งจากสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เยอรมัน และ แคนนาดา มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
โดยนายธนาธร กล่าวขอบคุณที่มาให้กำลังใจ พร้อมขอให้ทุกคนอย่าเข้าไปภายในสถานีตำรวจ เพราะไม่มีความจำเป็น และไม่มีใครต้องการให้วันนี้กลายเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ก่อนขึ้นไปยัง สน.ปทุมวัน ทั้งนี้นายธนาธร ได้หันมาชูสัญลักษณ์สามนิ้ว กับกลุ่มมวลชนที่มาให้กำลังใจด้วย


ขณะเดียวกันพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าติดตามการสอบปากคำนายธนาธร ด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อมาถึง ถูกกองเชียร์พรรคอนาคตใหม่ตะโกนโห่ไล่
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนสน.ปทุมวันได้แจ้งข้อหา นายธนาธร จำนวน 3 คดี คือ ความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อ ความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี”


ความผิดตามมาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดตามมาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ บรรดาผู้ที่กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยนายธนาธร ปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอขึ้นให้การในชั้นศาล ซึ่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้แจ้งแก่นายธนาธรว่า คดีความทั้งหมดจะเข้าสู่ขั้นตอนของศาลทหาร