สรุปยุบพรรคอนาคตใหม่ได้พรรคเดียว เหตุกู้เงินหัวหน้าพรรค ส่วนอีก 31 พรรคกู้ไม่ถึง 10 ล้านถือว่าไม่ผิด รอดโดนยุบพรรคแบบมึนๆ
จากกรณ๊นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้ตรวจสอบว่าพรรคการเมืองจำนวน 32 พรรคการเมือง มีการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการของพรรคการเมือง เป็นการกระทำหรือนิติกรรมที่ขัดหรือยังต่อมาตรา 62 ประกอบมาตรา 72 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่งมีโทษยุบพรรค เช่นเดียวกับที่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่? จนกลายเป็นสาเหตุการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำวินิจฉัยโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และมีผลให้มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยยังมีอีก 31 พรรคการเมืองที่เข้าข่ายเดียวกัน และกกต.ต้องวินิจฉัย

ล่าสุด พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นชอบตามที่สำนักงานกกต.เสนอ ให้มีการยุติเรื่องหลังตรวจสอบคำร้องโดยผลการตรวจสอบงบการเงินรวม 31 พรรค (ยกเว้นพรรคอนาคตใหม่) ตั้งแต่ 2560-2562 ของ กกต. พบว่า การให้กู้ยืมเงิน หรือการยืมเงินทดรองจ่ายจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค พรรคการเมือง หรือ กรรมการสาขาพรรค โดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือคิดดอกเบี้ย ที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า ถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 4 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พบว่าทุกพรรค มีการกู้ยืนเงินหรือยืมเงินทดลองจ่ายดังกล่าว จากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคฯ ไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อคน ต่อพรรค ต่อปี ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไว้ในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ จึงถือว่าการกู้ยืมเงินดังกล่าวของทั้ง 31 พรรค ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งหลังนายทะเบียนเห็นชอบก็ได้มีการแจ้งให้ กกต.ทราบแล้ว โดยผลสรุปการกู้ยืมเงินของพรรคการเมือง มีเพียงพรรคอนาคตใหม่พรรคเดียวที่ถูกยุบ และกรณีการวินิจฉัยของกกต.กลายเป็นที่สนใจในโลกโซเชียลโดยได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง .