“กระทรวงการคลัง” เป็น “ต้นน้ำ” ของการพัฒนาประเทศ อย่าให้กระทรวง หรือหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงประชาชน มองว่า เป็นตัวถ่วงระบบ…!!
ปีนี้การขอคืนภาษีช้ามาก และเป็นในหลายๆ เขตพื้นที่ เพื่อนหลายคนติดต่อขอคืนภาษีผ่านทางอินเตอร์เน็ต ปีที่แล้วก็มีปัญหาล่าช้า เพราะเพิ่งเริ่มรันระบบ “พร้อมเพย์” ปัญหาตรงนั้นน่าจะผ่านไปแล้ว
แทนที่ระบบต่างๆ เข้าที่เข้าทาง แต่ปีนี้กลับช้ากว่าเดิม คนที่ไปขอคืนภาษีเป็นจำนวนมาก บ่นกันแทบทุกรายว่า “เจ้าหน้าที่” ขอเอกสารเพิ่มเติมเยอะมาก ทั้งๆ ที่ยื่นเหมือนเดิมแทบทุกปี เขาก็อัพโหลดให้ทุกอย่างตามที่ขอ จนเจ้าหน้าที่ไม่ขออะไรเพิ่มเติม แต่รอมานานหลายเดือนแล้ว บางรายยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินคืน?
สงสัยมีคนโทร.ไปด่าเยอะ เรื่องการขอเอกสารเพิ่มเติมจุกจิกไปหมด ทั้งที่ปีก่อนๆ ไม่เห็นต้องใช้ แสดงว่าต้องการ “ดึงเรื่อง” การคืนภาษีออกไปมากกว่า สุดท้าย “กรมสรรพากร” ต้องร่อนหนังสือ แจงเรื่องการขอเอกสารเพิ่มเติมออกมา
อีกรายหนึ่งเป็น “นิติบุคคล” เป็นธุรกิจ SME ไปทำเรื่องขอคืนภาษีด้วยตนเอง ที่ สรรพากรกรุงเทพเขตพื้นที่ 14 เจอเจ้าหน้าที่เรียกเอกสารเพิ่มเติมแทบจะทุกรายการ เดินแทบจะครบทุกโต๊ะ ชั้นบนชั้นล่าง เจ้าหน้าที่ก็ยังเรียกขอโน่นนี่นั่นเพิ่มตลอด
ประเด็นก็คือ รัฐบาล กำลังส่งเสริมให้ SME เข้มแข็ง เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ จำเป็นต้องมี “เงินทุนหมุนเวียน” อย่างต่อเนื่อง แต่ยื่นขอคืนภาษี เจอระเบียบยิบย่อย ล่าช้านานเป็นปีจนถึงหลายปีจนธุรกิจแทบ “ขาดสภาพคล่อง” แทนที่จะ “ส่งเสริม” ให้ทุกอย่างสะดวกรวดเร็ว กลับกลายเป็นคนทำให้ทุกอย่างยากและล่าช้าออกไปเสียเอง…
ยิ่งเจอคำว่า “รอพิจารณา” ตรงนี้ยิ่งทำให้คนยื่นขอคืนภาษี “เครียด” เพราะไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ รอนานแค่ไหน?
ตอนนี้เศรษฐกิจในระดับประชาชนทั่วไป “ย่อบแย่บ” มากๆ แม้ “รัฐบาล” หรือ “หอการค้า” จะแถลงว่า เศรษฐกิจดี ความเชื่อมั่นฟื้นตัวสูงสุดในรอบ 40 เดือน แต่ “เศรษฐกิจมหภาค” ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ประชาชนระดับล่าง มีเงินในกระเป๋ามากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนอยู่ในภาวะ “รัดเข็มขัด” ต้องประหยัดทุกอย่าง ช่องทางไหนที่พอจะมีเงินไหลเข้ามา “มีความสำคัญ” ทุกรายการ
“สรรพากร” อย่าไปมองว่า เป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับชาวบ้าน และผู้ประกอบการ ในยามนี้มีค่าทุกบาททุกสตางค์ เงินทองหายากมากจริงๆ
เห็นทีท่าน “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.คลัง ต้องลงมาดูเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านในเรื่องนี้ด้วย ที่เขาไม่โวยวายกัน ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่กลัวว่าพูดแล้ว “ไม่ได้ยิน” ซะมากกว่า
ขณะที่ กระทรวงการคลัง ออกข่าวมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี ไทยแลนด์ 4.0 แต่ข้าราชการในสังกัด ยังคงทำงานเหมือนเดิม แล้วการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายของกระทรวง จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน?
ในความเป็นจริง ทั้งระบบจะต้องก้าวเดินไปพร้อมๆ กันไม่ใช่หรือ?
“กระทรวงการคลัง” เป็น “ต้นน้ำ” ของการพัฒนาประเทศ อย่าให้กระทรวง หรือหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงประชาชน มองว่า เป็นตัวถ่วงระบบ…!!
โดยเฉพาะ “ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส” ข้าราชการหนุ่มรูปหล่อ “น้ำดี” อนาคตไกลของกระทรวง ที่เพิ่งมานั่งเก้าอี้ “อธิบดีกรมสรรพากร” สดๆ ร้อนๆ น่าจะเข้าไปดูตรงนี้ก่อนเรื่องอื่นเลย ผ่าน Q2 ของปีงบประมาณ ไปเป็นเดือนแล้ว ยังมีประชาชนไม่ได้เงินคืนภาษีอยู่เป็นจำนวนมาก เร่งตรวจสอบดูว่าระบบ “บกพร่อง” ตรงไหน?
อย่าให้ประชาชนมองว่า “รัฐบาลถังแตก” จนทำให้ไม่มีเงินมาคืนภาษี เพราะถ้าเกิดเรื่องแบบนี้บ่อยๆ “ความเชื่อมั่น” ที่ตัวเลขกำลังดีขึ้น จะตกวูบลงเหวไปอีก
เร่งคืนเงินให้ชาวบ้านเถอะ เขาจะได้มีเงินหมุนเวียนไปหมุนระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลจะได้เก็บภาษีได้เป็นไปตามเป้าหมาย!
เทวัญ จงกลรอด
