Lady Gaga กับการเดินทาง 5 อัลบั้มของเธอ
เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเสมือนวันคล้ายวันเกิดของ Lady Gaga หรือที่มีชื่อจริงว่า Stefani Joanne Angelina Germanotta นักร้องนักแต่งเพลงเชื่อสายอเมริกา ได้ทำงานในวงการเพลงเป็นระยะเวลานาน ด้วยการอยู่เบื้องหลังม่านอันสวยงามในฐานะผู้แต่งเพลงให้แก่ศิลปินคนอื่น แล้วเธอก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาเป็นศิลปิน แต่งเอง ร้องเอง จึงออกอัลบั้มแรก ที่ชื่อว่า The Fame ที่มีสไตล์ pop dance จังหวะติดหู อย่างเพลง Just Dance, Poker face และ Paparazzi ด้วยตัว MV ที่มีความแปลก ล่ำสมัย ทำให้กลายเป็นคนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเธอนั่นเอง
จากการปล่อยเพลงอัลบั้มแรกมานั้น ทำให้เธอให้ปล่อยอัลบั้มที่ 2 ตามมาติดๆ คือ The Fame Monster ด้วย MV เพลง Bad Romance ถือว่าเป็นกระแสที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งอารมณ์ การเต้น และเสื้อผ้าหน้าผมของเธอ ในอัลบั้มนี้เป็นจุดเปลี่ยนหลายๆอย่าง เหมือนกับว่าเธอได้กลายร่างกายเป็น monster ที่มีความหิวโหยกระหาย อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แนวเพลงในอัลบั้มนี้ จะเพิ่มความ dark ขึ้นมา จากการตั่งชื่อเพลงและเนื้อเพลง เช่น Monster และ Dancing in the Dark ซึ่งเป็นเพลงที่ สื่อถึงอัลบั้มนี้ได้ดี
ต่อมาอัลบั้มที่ 3 Born This Way มี Single ที่รู้จักกันดีด้วยเพลง Born This Way และ Judas ถือว่าเป็นเพลงที่มีการเสียดสีสังคมในระดับหนึ่ง โดยพูดถึงการเหยียดเพศ สีผิว เงิน อิสระ และ ศาสนา ทำให้ Lady Gaga ถูกห้ามไม่ให้เข้าแสดงคอนเสิร์ต ที่ ต่างประเทศ ด้วยเพลง Judas จึงถูกแอนตี้เป็นช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเธอจะถูกแบน เธอก็ยังคงทัวร์แสคงคอลเสิร์ตไปทั่วโลกและแฟนๆก็พร้อมที่จะตอนรับเธออย่างอบอุ่น
ในอัลบั้มที่ 4 คือ Art Pop ด้วย Single Applause สื่อให้ถึงการกลับมาของเธอ และในเพลงอื่นๆ ใน MV G.U.Y. ที่มีความแหวกแนว และเข้าไม่ถึง จนมีคนถามว่า “แต่งเพลงให้ใครฟัง เอเลี่ยนหรอ” แต่เนื่องจากอัลบั้มที่มีความแปลก ซึ่งทำให้คอนเสิร์ตของเธอ มีความแปลกใหม่และน่าสนใจเสมือนเธอมาจากดาวอีกดวง จนทำให้หลายๆคนพูดถึงในแง่นี้ได้เช่นกัน
หลังจากระดับความนิยมของเธอได้จางหายไปสักพัก เธอกลับมาอีกครั้งในอัลบั้ม Joanne ซึ่งเป็นชื่อกลางของเธอ และเป็นชื่อของยายเธอ ด้วยอัลบั้มนี้เธอสามารถขึ้น Top Chart Billboard อันดับ 1 เพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่มีสไตล์เพลง pop country เข้าถึงง่ายมากขึ้น เป็นอัลบั้มที่สามารถฟังได้เรื่อยๆ ทั้งอัลบั้ม ถือว่าเป็นประสบความสำเร็จอย่างมาก จนเธอได้ถูกเลือกให้แสดงในงาน Super Bowl 2017 ที่เมดเล่ย์เพลงดังในทุกอัลบั้มของเธอ จากการแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนั้น ทำให้อัลบั้มเก่าๆของเธอได้ขึ้น Top Chart Billboard ตามตามกันมา
ผู้เขียนคิดว่า Lady Gaga ได้ก้าวข้ามความบ้าของเธอ จนกลับมาสู่ในสิ่งที่คนปกติเข้าถึง ในทุกอัลบั้มเธอได้ เปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อยๆแต่ยังคงความ pop แล้วผสมแนวเพลงต่างๆ ให้น่าสนใจมากขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้รับเลือกสำหรับการแสดงยิ่งใหญ่นั่น