กรมอนามัย เตือนพ่อแม่ ผู้ปกครอง อย่าดุเด็กหรือขู่เด็กจนทำให้เกิดความกลัวหวั่นส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก แนะสร้างความไว้วางใจกับลูกด้วยการสอนในสิ่งที่ถูกต้องและใช้เหตุผล
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีในโซเชียลมีการใช้ภาพน่ากลัวเพื่อให้เด็กหยุดใช้สมาร์ทโฟนนั้น ซึ่งวิธีการขู่ให้กลัวหรือทำให้เด็กเกิดอารมณ์ด้านลบอื่นๆเช่น ตกใจ ขยะแขยง เป็นวิธีที่ผู้ใหญ่หลายคนนิยมใช้ เพราะเข้าใจว่าจะสามารถหยุดเด็กให้เลิกทำกิจกรรมได้ทันที เช่น การขู่ว่าหมอจะฉีดยา ตำรวจจะจับ หรือการใช้บอระเพ็ดทาที่หัวนมเพื่อให้เด็กหย่านม เป็นต้น แต่พ่อแม่ผู้ปกครองอาจลืมคิดไปว่าการหยุดเด็กด้วยวิธีดังกล่าวมีโอกาสเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา อาทิ เด็กอาจเกิดความกังวลและปฏิเสธ หรือหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นหรือสิ่งที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอย่างสุดโต่งไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และอาจเป็นการสกัดความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก หรือแม้กระทั้งถูกลดทอดความเข้าใจในเรื่องเหตุและผล ทำให้เด็กไม่มีความเชื่อมั่นและลดความไว้วางใจในตัวผู้ใหญ่ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้รู้สึกปลอดภัย
“นอกจากนี้ วิธีการขู่เด็กให้กลัวอาจส่งผลต่อเนื่อง ทำให้เด็กเสียโอกาสในการเรียนรู้ที่จะสร้างวินัยในตนเองแทนที่จะพัฒนาตนเองให้เลือกทำในสิ่งที่ควรทำและเลือกหยุดในสิ่งที่ควรหยุดโดยตัดสินใจได้ด้วยตนเองแต่กลับกลายเป็นการหยุดเพราะกลัวหรือหยุดเพราะตกใจซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาการปรับตัวเพื่อเรียนรู้ในทางกลับกันพ่อแม่ควรสอนในสิ่งที่ถูกต้องและใช้เหตุผลที่เหมาะสมในการตักเตือนลูกและควรแสดงความ ชื่นชม เมื่อเขาแสดงพฤติกรรมที่ดีน่าชมเชย ที่สำคัญพ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรเฝ้าติดตามสังเกตพฤติกรรมพัฒนาการเด็กในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ความสามารถด้านการเคลื่อนไหว การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญาด้านการใช้และเข้าใจภาษา และด้านการช่วยเหลือตัวเองและสังคมของเด็กวัยต่างๆ เพื่อจะได้ทราบถึงพัฒนาการแต่ละวัย พร้อมที่จะหาวิธีการส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กแต่ละด้านอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยต่อไป”รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ภาพประกอบข่าว