เมื่อหอยทากพันธุ์ไทยแท้ๆ กำลังเป็นสัตว์เศรษฐกิจส่งออกเกาหลีใต้ โกยเงินเข้าประเทศ จากผลงานวิจัย เรื่อง การใช้เมือกในอุตสาหกรรมความงาม โดยทีมนักวิจัย คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ คาดปี 61 โกยเงินกว่า 200 ลบ.
ศ.ดร.สุพจน์ หาญหนองบัว กรรมการผู้จัดการบริษัท สยาม สเนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าจากเมือกหอยทาก ภายใต้แบรนด์สเนลเอท (Snail8 ) เปิดเผยว่า ในทุกวันนี้กระแสเมือกหอยทากกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องสำอางชื่อดังประเทศหนึ่งของโลก และได้คิดค้นผลิตครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของเมือกหอยทากขึ้น จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า มียอดขายถล่มทลายทั่วโลก ในชณะที่เมืองไทยของมีหอยทากสัญชาติไทยชนิดหนึ่ง ชื่อ “หอยทากนวล” (Hemiplecta Distincta)เป็นหอยทากที่พบมากแถบภาคอีสานและภาคเหนือของไทย รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านในแถบอินโดจีน ที่พบหอยทากที่มีเมือกที่อุดมไปด้วยสารธรรมชาติหลากชนิด มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา และช่วยรักษาสิวได้ดี
โดยมีสารออกฤทธิ์ต้านเชื้อโรคที่อยู่ในเขตร้อน ทำให้เหมาะกับสภาพผิวของคนไทยและคนเอเชีย ดังนั้น ทางบริษัทสยาม สเนลฯ จึงได้นำเมือก “หอยทากนวล” มาทำการศึกษาและวิจัยอย่างเป็นระบบ ผ่านกระบวนการสกัดออกมาได้เป็นเซรั่มเมือกหอยทากบริสุทธิ์ ที่มีความเข้มข้นกว่าตามท้องตลาดทั่วไปถึง 30 เท่า นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา บริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 50 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 30 ล้านบาทเป็นการลงทุนสร้างฟาร์ม หอยทากไว้ภายในพื้นที่บริษัทฯเอง ซึ่งฟาร์มของบริษัทฯนั้น จะเป็นฟาร์มแบบกึ่งธรรมชาติ โดยจะมีทั้งโรงรีดเมือก , โรงกรองเมือก และโรงผลิตเมือก ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้จะผลิตในประเทศไทยทั้งหมด จากนั้นจะส่งไปยังโรงงานผลิตที่เกาหลีใต้ เพื่อทำการผลิตออมาเป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์อีกที
“เมื่อปีที่ผ่านมาเราผลิตในแบรนด์สยามสเนล และจำหน่ายภายในจุฬาฯ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก จนทำมาได้ปีกว่า บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในวุฒิศักดิ์ คลินิก ได้เข้ามาร่วมลงทุน และถือหุ้นเป็นสัดส่วน 50% ขณะที่เราซึ่งเป็นกลุ่มผู้เริ่มก่อตั้ง ก็ยังถือหุ้นอยู่สัดส่วน 50%อยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่เข้ามานั้น เขามีเป้าหมายอยากจะขยายสเนลเอท ไปสู่ตลาดโลกด้วย”
ศ.ดร.สุพจน์ กล่าวถึง มูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางปี2559 ว่า มีมูลค่า2.8แสนล้านบาท เติบโต10%เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยในปี2560 คาดว่ามูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางไทยจะเติบโต 6-7% แบ่งเป็นขายในประเทศ60% ส่งออก40% โดยแบ่งเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว46% ซึ่งสเนลเอท (Snail8) อยุ่ในกลุ่มนี้ , ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม16% ,ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกตกแต่งสีสันใบหน้า16%, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำหอม3% โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวผิวหน้าสเนลเอท (Snail8)ที่สกัดจากเหมือกหอยทากนี้ มีแผนจะเจาะตลาดต่างประเทศ ทั้งประเทศเกาหลี และยุโรป โดยเบื้องต้นคาดว่าจะทำการขายทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และขายในรูปแบบวัตถุดิบเหมือกหอยทากสกัด เพื่อให้ประเทศนั้นๆนำไปผลิตเป็นเครื่องสำอางเอง ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างเจรจาและทำข้อตกลงเงื่อนไขในรายละเอียดต่างๆ พร้อมทั้ง รอดูรายละเอียดปลีกย่อยขององค์การอาหารและยา (อย.)ในแต่ละประเทศที่ต้องนำเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย
ด้านนางธาริณี กาญจนะวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัทสยามสเนล จำกัด เปิดเผยว่าภายใต้แบรนด์“Siam Snail” (สยามสเนล) นั้น ปัจจุบัน ได้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมการบำรุงผิว SNAIL8โดยมี ผลิตภัณฑ์รวม 6 ชนิดแล้ว คือ 1.เซรั่มบำรุงผิวจากคุณค่าแท้เมือกหอยทากเฉพาะจากส่วนแมนเทิลสูตรเข้มข้น, 2.เซรั่มบำรุงผิวเข้มข้นสูตรไวท์เทนนิ่ง,3.ครีมบำรุงผิวแอนไทเอจจิ้ง(เดย์ครีม)จากคุณค่าแท้เมือกหอยทากเฉพาะจากส่วนแมนเทิล,4.ครีมบำรุงผิวแอนไทเอจจิ้ง(ไนท์ครีม) จากคุณค่าแท้เมือกหอยทากเฉพาะจากส่วนแมนเทิล,5.ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า สูตรเข้มข้น, และ6. มาส์กแผ่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าลดเลือนริ้วรอย สูตรเข้มข้น และมาส์กแผ่นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเพื่อผิวกระจ่างใส อีกด้วย โดยวางจำหน่ายที่ร้านวัตสันทุกสาขา,โอสถศาลา ซึ่งเป็นร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ,วุฒิศักดิ์ คลินิก ทุกสาขา, save drugทุกสาขา และที่คิงเพาเวอร์ รางน้ำ รวมทั้งยังจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊กของสเนลเอท และลาซาด้า
“ทั้งนี้ หลังจากมีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามา จะทำให้เราสามารถทำแผนการตลาดและขยายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ในอนาคตยังสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ครบไลน์ นอกจากจะมีซีรั่มแล้ว ก็จะเพิ่มตัวคลีนเซอร์ และกลุ่มสกินแคร์ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาสูตรไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย หรือผลิตภัณฑ์สำหรับบอดี้ได้อีก จากขณะนี้เราจะเน้นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า ซึ่งด้านยอดขาย เมื่อปี 2015 (พศ.2558) ซึ่งยังเป็นการผลิตและจำหน่ายกันเอง เรามียอดขายประมาณ 20 กว่าล้านบาท แต่ในพศ.2559หลังจากมีผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามา เรา ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดมากขึ้น และทำแบรนดิ้ง โดยตั้งเป้ายอดขายปี2560ไว้ที่100 ล้านบาท และในปีหน้า(2561)เราจะขยายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเป็น 200 ล้านบาท ทั้งนี้ได้จัดให้มีโปรโมชั่นสำหรับผู้ซื้อในช่วงนี้ สามารถนำใบเสร็จลดหย่อนภาษีสู่งถึง15,000 บาท”
ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร. สมศักดิ์ ปัญหา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวว่า หอยทากสายพันธุ์ไทยมีอยู่ 600 กว่าสายพันธุ์ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่มากกว่าหอยทากสายพันธุ์ จากต่างประเทศ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญเชื้อโรคในเขตร้อน จึงมีสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรค ที่มีความหลากหลายได้ดีกว่า และเมื่อเปรียบเทียบความเข้มข้นของเมือกหอยทากพบว่าเมือกหอยทาก สายพันธุ์ไทย มีสารสำคัญที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเมือกหอยทากสายพันธุ์ต่างประเทศถึง 30 เท่า
ซึ่งผลงานวิจัยของทีมจากบริษัทสยาม สเนล จำกัด ดังกล่าว ถือเป็นผลงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง โดยได้รับรางวัลในระดับนานาชาติมาแล้ว อาทิเช่น รางวัลแรกที่ได้รับคือจากสำนักวิจัยแห่งชาติ (วช.) รางวัลมาตรฐานระดับนานาชาติ ,รางวัลเหรียญทองในงาน 44th International Exhibition of Invention of Geneva ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของประเทศไทย Premium Products of Thailand-The Pride of Thais ในงาน THAILAND INDUSTRY EXPO 2016 โดยแบรนด์สเนลเอท เป็นเจ้าเดียวที่ใช้สารสกัดจากเมือกหอยทากสายพันธุ์ไทยแท้ๆ ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดได้ที่ http://www.siamsnail.com/th