DRT ชูความพร้อมสินค้าหลากหลายและช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม รับตลาดวัสดุก่อสร้าง Q4/68 ทยอยฟื้นตัว หวังรัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ

“บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT” มองภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 4/2568 ยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากรัฐบาลชุดใหม่ประกาศนโยบายด้านเศรษฐกิจ คาดหวังภาครัฐเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมต่อเนื่อง ชูความพร้อมด้านการผลิตและสินค้าที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคา กลุ่มไม้สังเคราะห์ และอิฐมวลเบา รวมถึงการนำเสนอโซลูชันแก่ลูกค้า มุ่งทำยอดขายใกล้เคียงกับปีก่อน รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20% และสัดส่วนรายได้จาก 4 ช่องทางจัดจำหน่ายหลัก

Advertisement

วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา บริการติดตั้งโครงหลังคาสำเร็จรูปและกระเบื้องหลังคา รวมถึงพื้น บันได และผนัง พร้อมบริการติดตั้ง ‘SPC Solutions’ แบบครบวงจร ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลชุดใหม่ได้ประกาศนโยบายต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจ คาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 4/2568 ทยอยฟื้นตัวได้บ้าง

อย่างไรก็ตามเนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัวจากครึ่งปีแรก จึงคาดว่าการฟื้นตัวจะยังคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดหวังให้ภาครัฐเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณ และผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น การก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์, การพัฒนาส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง และการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในพื้นที่จังหวัดหลักและเมืองรอง เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยรองรับการขยายครอบครัวหรือย้ายถิ่นที่อยู่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านการผลิตและสินค้าที่หลากหลาย เพื่อรับโอกาสหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว โดยปัจจุบันมีสินค้าและบริการครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์และกระเบื้องหลังคาคอนกรีต กลุ่มไม้สังเคราะห์ และอิฐมวลเบาที่เริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์โรงงาน AAC-2 จังหวัดสระบุรีแล้ว รวมถึงการนำเสนอ Diamond Roof Solutions บริการติดตั้งหลังคาทั้งระบบแบบครบวงจร (สินค้าพร้อมบริการติดตั้ง) และ Diamond SPC Solutions สำหรับงานตกแต่งพื้น บันได และผนัง นอกจากนี้ ได้ขยายช่องทางจำหน่ายผ่านร้านค้าผู้แทนจำหน่ายรายย่อยครอบคลุมจังหวัดหลักและเมืองรอง เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่ค่อยๆ ฟื้นตัว บริษัทฯ จะผลักดันยอดขายปี 2568 ให้ได้ใกล้เคียงกับปีก่อนหรือชะลอตัวไม่เกิน 10% และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20% โดยมุ่งเน้นการขายสินค้าเชิงรุกและรักษาสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายหลักทั้ง 4 ช่องทาง ได้แก่ 1) ร้านค้าผู้แทนจำหน่าย ซึ่งเป็นสัดส่วนยอดขายหลักประมาณ 50 – 55% จะผสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อขยายตลาดงานภาครัฐและเมืองรอง 55 จังหวัด 2) ตลาดต่างประเทศ มีสัดส่วนยอดขาย 15 – 20% จะมุ่งขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เช่น สปป.ลาว, เมียนมา, ฟิลิปปินส์ 3) ร้านค้าปลีกวัสดุสมัยใหม่ จะรักษาสัดส่วนยอดขายที่ระดับ 15 – 20% และ 4) ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ จะรักษาสัดส่วนยอดขายที่ 10 – 15% โดยปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณบวกจากผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำบางราย เริ่มเปิดตัวโครงการใหม่และทยอยก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2568 ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้สินค้าและยอดขายของบริษัทฯ ในไตรมาสสุดท้าย

#DRT #ตลาดวัสดุก่อสร้าง #งบประมาณ #ข่าววันนี้ #ผลิตภัณฑ์ตราเพชร