ยุคนี้ทำธุรกิจอะไรดี… ดูทางนี้ กรมพัฒน์ฯ แนะเทรนด์ “ดูแลผู้สูงอายุ”

กรมพัฒน์ฯ จับมือพันธมิตร ชี้เทรนด์ใหม่ธุรกิจ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ รองรับสังคมผู้สูงวัยของไทยและโลก หวังสร้างรายได้เข้าประเทศจากผู้สูงวัยต่างชาติที่เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางชีวิต

Advertisement

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจบริการสุขภาพเป็นธุรกิจที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีมาตรฐาน บริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงธุรกิจภายใต้ธุรกิจบริการสุขภาพก็คือ ‘ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ’ที่มีความโดดเด่นและเป็นที่จับตามองจาก นักธุรกิจไทยและต่างชาติถึงโอกาสในการพัฒนาและเติบโต เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญและเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการคาดคะเนว่าในปี 2563 จะมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปมากถึง 12 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าเราได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ในขณะที่ประเทศฝั่งยุโรปและประเทศที่ใกล้ชิดกับประเทศไทยอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ก็ก้าวสู่สังคมแห่งผู้สูงอายุแล้วเช่นกัน

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

จากข้อมูลพบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุราว 800 ราย เป็นนิติบุคคลจำนวน 200 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,282.97 ล้านบาท และเป็นบุคคลธรรมดาราว 600 ราย มีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพบริหารจัดการจำนวน 75 ราย (นิติบุคคล 35 ราย และบุคคลธรรมดา 40 ราย)แต่หากนำจำนวนธุรกิจมาเปรียบเทียบกับสัดส่วนของประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปีแล้ว จะเห็นว่ายังมีช่องว่างถึงความต้องการของตลาดอยู่มากและนับว่ามีโอกาสอีกมากมายที่ผู้สนใจจะเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวได้ “ปัจจุบัน ธุรกิจบริการสุขภาพไทยจำนวนมากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้ผู้รับบริการยังไม่เชื่อมั่นในมาตรฐานระบบการบริหารจัดการ ดังนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพ สำหรับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ รุ่นที่ 1” ขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีธุรกิจที่สนใจสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยผู้เข้าอบรมได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ด้านต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ อาทิ โมเดลธุรกิจ   การบริหารจัดการตลาดที่ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตก   รรมใหม่ๆ มาปรับใช้กับธุรกิจ การใช้ช่องทางการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ที่เหมาะสม การรับฟังเรื่องราวประสบการณ์จากเจ้าของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกิจกรรม Workshop สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เข้มแข็ง”อธิบดี กล่าวเพิ่มเติม

เชื่อมั่นว่า ผู้ที่ผ่านการอบรมฯ จะสามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้แบบมืออาชีพและมีประสิทธิภาพรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุของโลกได้ อย่างไรก็ดี นับเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยที่ผู้สูงอายุทั่วโลกมองไทยเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะเดินทางมาใช้บริการและพำนักในประเทศ เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ค่าครองชีพไม่สูง และการบริการที่ประทับใจถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของธุรกิจบริการในประเทศไทยจึงทำให้ได้เปรียบและมีโอกาสมากกว่าประเทศอื่นๆ การอบรมในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างผู้ประกอบการไทยให้เห็นโอกาสและช่วงชิงพื้นที่ทางการตลาดให้ไทยก้าวไปสู่ผู้นำด้านธุรกิจบริการผู้สูงอายุได้ ประกอบกับสามารถขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่น Home Care, Long stay, Medical Tourism และแฟรนไชส์ เป็นต้น รวมถึงธุรกิจที่ไทยมีความพร้อมอย่างธุรกิจบริการสุขภาพ โดยเฉพาะธุรกิจบริการด้านการแพทย์ (Medical Hub) ที่มีชื่อเสียงมายาวนานและเป็นที่ยอมรับในนานาชาติจะเป็นส่วนที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุไทยเป็นที่รู้จักและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล”