ครม.ไฟเขียวเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เชื่อทำรายได้เข้าประเทศกว่าหมื่นล้าน

ที่ประชุม ครม. วันนี้ (27 มีนาคม) ได้เห็นชอบ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) โดยมีวัตถุประสงค์สร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่โดยไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาล หรือ การท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่ หรือ การท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man made tourism )โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็น กว่า 80,000 ราย และ 80% เห็นด้วย โดยหลังจากนี้จะมีการเสนอร่างดังกล่าวให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป

Advertisement

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะมีกาสิโนอยู่ในธุรกิจไม่เกิน 10% ขณะที่ 90% จะเป็นเรื่องฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ 50,000 คน อินดอร์สเตเดี้ยมขนาดใหญ่ สวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร ที่จะสร้างรายได้กว่า 119,000-238,000 ล้านบาท คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี และมีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดอาชีพใหม่และทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากกาสิโนและธุรกิจอื่น เพื่อนำมาพัฒนาประเทศ ที่สำคัญจะมีกฎหมายควบคุม เพื่อป้องกันติดการพนัน โดยจะกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามว่า จะมีช่องทางอะไรอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ได้อย่างไรว่าเรื่องกาสิโน เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น นายกฯ กล่าวว่า อยากจะบอกว่าจะมีอาชีพใหม่เกิดขึ้น เพราะมีธุรกิจหลายอย่าง เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น เช่น สถานที่จัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ที่มีความจำเป็นอย่างมากและเท่าที่ฟังข้อมูลจากหลายกลุ่ม พบว่ามีการอยากเข้ามาจัดงานที่ประเทศไทย ที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ แต่สถานที่ของเราใหญ่สุดยังไม่พอรองรับคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ทำให้หลายครั้งพลาดโอกาสที่ดีไป ถ้าเราทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมครบวงจรจะเป็นสิ่งดี จึงอยากให้มองในภาพใหญ่ไม่ใช่เจาะเฉพาะกาสิโน เราต้องการให้คนเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะต้องผ่านที่ประชุมของรัฐสภา รวมถึงยังมีม็อบที่คัดค้าน นายกฯจะเอาอยู่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่อยากพูดว่าจัดการได้ทั้งหมด เรายินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดและพร้อมที่จะตอบ หากมีรายละเอียดอะไรที่อยากรู้เพิ่มเติมเราก็จะตอบ แล้วจะสื่อสารให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ได้มีการสอบถามอีกว่า ที่ผ่านมาเคยคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องกาสิโนแล้วหรือยัง นายกฯได้หันหน้าไปทางนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พร้อมกับบอกว่าให้คลังช่วยชี้แจงด้วย เมื่อถามย้ำว่า มีโอกาสคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลให้เคลียร์ หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในสภาฯ นายกฯ ยิ้มและหันหน้าไปทาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และตอบสั้นๆ ว่า  “คุยค่ะ คุยแล้ว และเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว”

เมื่อถามว่าในมิติของทางสภาได้คุยแล้วหรือยัง นายกฯกล่าวย้ำว่า คุยแล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดของสภาฯต้องให้สภาฯทำต่อไป เขาต้องไปคุยกันและอาจจะมีการแก้ให้เกิดความเหมาะสม ตอนนี้ผ่านไป หนึ่งขั้นก่อนและไม่ได้มีปัญหาอะไร รายการคุยเรื่องนี้เพราะเป็นการสร้างโอกาส ให้กับประเทศเรา ถ้าดูตัวเลขเศรษฐกิจ ที่ระบุว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่ม 5-10% รัฐ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,000- 39,000 ล้านบาทต่อปี และจะเก็บภาษีจากธุรกิจอื่น ประมาณ 8,000- 35,000 ล้านบาทต่อปี โดยภาษีเฉพาะกาสิโน ขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี ตรงนี้เป็นโอกาสของประเทศที่แท้จริงอย่าไปโฟกัส แค่เรื่องเดียวแต่ทั้งหมดจะสร้างโอกาสให้ประเทศ

เมื่อถามว่ามีการกำหนดกรอบวาระ ในชั้นส.ส.และส.ว.ว่าควรจะต้องเสร็จเมื่อไหร่หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ได้วางไทม์ไลน์ชัดเจน ส่วนประเด็นเรื่องวงเงิน 50 ล้าน ของผู้ที่จะมาลงทุน ก็ต้องไปว่ากันในสภาฯ