หลายวันก่อนได้มีโอกาสคุยกับพี่สาวคนหนึ่ง ถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคม ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของคนในวัยเรา..ต้องยอมรับว่า 40-50ปีมานี้สังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปมากจนบางครั้งเราเองก็ลืมที่จะนึกถึง..ตั้งแต่เด็ก ถึงช่วงรุ่นๆจนตอนนี้ซึ่งเป็นยุคของเด็กรุ่นใหม่..เราพอจะแบ่งสังคมที่ผ่านมาเป็นภาษาง่ายๆได้ว่า..
Hippie หรือ Hipster เป็นกลุ่มคนรุ่นแรกๆ ที่ไม่ยอมรับค่านิยมทางการเมือง เชื่อมั่นและใช้ชีวิตอย่างอิสระและเสรีแบบสุดโต่งรวมถึงทัศนคติและมุมมองที่ มีต่อสังคม การเมือง และการศาสนา
บ้านเราเรียกฮิปปี้อีกคำว่า “บุปผาชน” ถือกำเนิดจากกลุ่มคนหนุ่มสาวในประเทศสหรัฐอเมริกายุค 60’s-70’s แล้วขยายอิทธิพลเกิดกลุ่มชนฮิปปี้ หรือบุปผาชนขึ้นทั่วโลก
ปี 60’s เป็นยุคที่เกิดการเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียดระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์และ ระบอบประชาธิปไตย เกิดสงครามเวียดนาม เกิดดนตรีแนวร็อกอย่างวง The Beatles
ฮิปปี้ในยุคนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะเช่นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทำมือ ใช้เครื่องประดับคือลูกปัดหรือเชือกหนังถัก ไม่นิยมรอยสัก แต่นิยมเสพกัญชาและร่วมเพศอิสระเสรีแบบสุดขั้ว
หลังยุค 60’s ผ่านพ้นไป ฮิปปี้ได้กลายพันธุ์ไปเป็นเด็กพั๊งค์ เด็กแร็พ เด็กแนว และเด็กฮิปฮอป
ส่วนคนรุ่น 2 เรียกว่า “ยัปปี้” (Yuppie) ย่อมาจากYoung Urban Professional ช่วงอายุระหว่าง 20-30 ปี มีประวัติการศึกษาที่ดี มีหน้าที่การงานมั่นคง มีรายได้จากการทำงานที่ดี ใช้ชีวิตสะดวกสบายในเมือง เป็นชนชั้นวัตถุนิยมที่มีรูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตแวดล้อมด้วย 4Cs ประกอบด้วย 1) Condominium 2) Computer 3) Cell phone และ 4) Credit Card
ประเทศไทยวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนยัปปี้ โดยเฉพาะเมืองหลวงและเมืองเจริญทั่วไป
ช่วงปี 60’s เกิดพวกฮิปปี้ พอยุค 80’s การปฏิวัติทางเทคโนโลยีสื่อสารและคอมพิวเตอร์ทำให้หลายคนกลายเป็นยัปปี้ จนมาถึงยุค 00’s หลังกระแส Y2K และ 9/11 คนกลุ่มซิปปี้ (Zippie) ได้ก่อตัวขึ้น
ซิปปี้คือคนกลุ่มนี้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตของโลกอย่างรวดเร็ว ณ ปัจจุบัน ความรู้เรื่อง “ปี้ๆ” ทั้งหลาย มีผลโดยตรงต่อความสำเร็จของกิจการ SMEs
นิตยสารเอาต์ลุกของอินเดีย นิยามซิปปี้ว่าเป็นคนหนุ่มสาวในเมืองหรือนอกเมืองอายุระหว่าง 18-25 ปี เต็มเปี่ยมด้วยพลังและความกระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จ อาจจะทำงานแล้วหรือยังเรียนหนังสือ แต่มีทัศนคติ ความใฝ่ฝันและความทะเยอทะยานแรงกล้า เป็นคนทันสมัย เชื่อมั่นในตนเอง ชอบความท้าทาย มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบเสี่ยง กล้าแสดงออก ไม่เก็บกด และไม่ปล่อยชีวิตไปตามเวรตามกรรม
ซิปปี้ไม่ได้ทำงานเพียงเพื่อมุ่งหวังเงินตราเป็นสิ่งตอบแทน แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ รอบตัวเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีใหม่ของตน คนกลุ่มซิปปี้ไม่ว่าจะมีเงินหรือถังแตกจะไม่มีสภาวะ “เค็มเหนียวเขี้ยวเบี้ยว”
ตัวอย่างผลงานของซิปปี้คือ “กูเกิ้ล” “เฟซบุ๊ก” ในเมืองไทยคือ “เถ้าแก่น้อย
เชื่อว่าในอนาคตก็จะมีคลื่นลูกหลังคอยซัดขึ้มมาอยู่เรื่อยๆ ความแตกต่างระหว่างคนในแต่ล่ะรุ่นอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งบ้าง แต่นั่นไม่ได้กมายถึงการแตกแยกถ้าเราเปิดใจยอมรับซึ่งกันและกัน แนวคิดใหม่ๆไม่ใช่ไม่ดี อนุรักษ์นิยมไม่ได้ผิด คนรุ่นเก่าสะสมได้ซึ่งประสบการณ์..สำคัญที่เราต้องเปิดใจและมีสติ
เรื่องโดย..เฮดีส เจ้าแห่งนรก
ภาพจากอินเตอร์เน็ต