“อองซานซูจี” เปิดฉากเล่นบทดราม่า ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ หลังชาวโรฮิงญาอพยพลี้ภัยกว่า 4 แสนคน จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
ที่สุดแล้วก็มาจนได้ …สำหรับ นาง อองซานซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ซึ่งออกมาเปิเผยต่อสาธารณเป็นครั้งแรก (19 ก.ย.) หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในรัฐยะไข่ของเมียนมา ระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม จนเป็นช่องว่างให้เกิดการแทรกแซงของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหารและตำรวจพม่า นำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ที่นานาชาติเฝ้าจับตาดู
ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ออกมาแถลงการณ์โดยกล่าวประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งมวล พร้อมย้ำ ประเทศเมียนมาเสียใจอย่างสูงต่อความเจ็บปวดของทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและมีการเตรียมพร้อมที่จะเริ่มกระบวนการพิสูจน์ (สถานะผู้ลี้ภัย) ทุกเมื่อ”
นอกจากนี้เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ยังกล่าวถึง ประชาชนชาวโรฮิงญาที่อพยพเข้าสู่บังกลาเทศ โดยไม่ได้การันตีว่าผู้อพยพทั้งหมดจะได้หวนคืนบ้านเกิดหรือไม่? ทั้งนี้ เมียนมาต้องการที่จะ “ยุติสาเหตุของการอพยพ” ของประชาชนในรัฐยะไข่ และจะเชิญเจ้าหน้าที่การทูตจากนานาชาติมาสำรวจว่าเหตุใดผู้คนจึงอพยพไป
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค.2560ที่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญา ล้อมที่ทำการตำรวจเมียนมา ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่กองทัพเมียนมาเสียชีวิต 12 นาย รวมถึงเหตุการณ์การทำร้ายกันระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในพื้นที่ โดยมี ชาวโรฮิงญามากกว่า 400,000 รายได้อพยพเข้าสู่บังกลาเทศเพื่อลี้ภัยความรุนแรง ก่อนหลายฝ่ายจะออกมาเรียกร้องให้เมียนมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเคารพในหลักสิทธิมนุษยชน โดยพุ่งเป้าจับตามองไปที่ท่าที่ของ “ซูจี” กับการแสดความเห็นในกรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นพิเศษ
ภาพจากแฟ้มข่าว และ http://sites.gsu.edu