บนเสียงปรบมือ แต่ก็มีเสียงด่ากันพอสมควร เท่าที่ฟังเสียงคนใกล้ตัวๆ หรือใครที่ยังต้องดูด ต้องดื่ม กับอัตราภาษีใหม่ที่ไม่ต้องลากกลับไปถึงเรื่องมติครม.เห็นชอบกฏหมายอะไร คนทั่วไปก็เข้าใจว่า “รัฐบาลขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ และสินค้าที่เกี่ยวกับสรรพาสามิต” มีผลให้สายควัน –สายเมา ต้องควักกระเป๋าอีกหลายอัฐ
แน่นอนว่า “เหล้า –บุหรี่” นั่นเป็นเรื่องของที่ทำลายสุขภาพ และก็ถูกหยิบเอามาเป็นเหตุเป็นผล ว่าอยากให้ประชาชนลดละเลิก เหตุผลนี้ก็สมควร เพราะแต่ละปีมีคนไทยต้องเป็นมะเร็งหรือเป็นโรคร้ายต่างๆ ที่มีผลจากเหล้าบุหรี่เป็นจำนวนมาก
เสียเงินเยียวยารักษา ซึ่งเอามาจากงบประมาณของประเทศปีละหลายแสนล้านบาท!
และก็ไม่แปลกที่ใครๆ จะตั้งชื่อการจัดเก็บภาษีกับของประเภทนี้เอาไว้ว่า “ภาษีบาป” เพราะมันบาปจริงๆ มันทำร้ายคน เป็นต้นเหตุของโรคร้าย หลายครั้งหลายหน พอรัฐมีนโยบายจะจัดเก็บอัตราภาษีเหล้าบุหรี่ ก็มักจะมี “โลกสวยทีม” ออกมาแสดงความเห็นด้วย เห็นชอบ ส่งผลให้ รัฐบาลที่คิดจะเก็บภาษีพวกนี้เพิ่มกลายเป็น “พระเอก” และก็มักจะเล็งการขึ้นอัตราภาษีด้วยเหตุด้วยผลนี้ “เพื่อสุขภาพของประชาชน”
แต่การจัดเก็บอัตราภาษีเหล้าบุหรี่รอบล่าสุด ที่เพิ่งจะมีผลไปเมื่อวานนี้ (16 กันยายน 2560) กลับมีแรงโน้มถ่วงที่แตกต่างออกไป คือแทนที่จะคล้อยตามเห็นด้วยกลับมีเสียงก่นด่า ทั้งเริ่มดังขึ้นๆ จับดัชนีชี้วัดจากไหนไม่ได้ก็จับเอาจากคนใกล้ตัว บนความเห็นที่ บนเหตุ“น่าฟังเลยทีเดียว”
เสียงก่นด่าไม่ใช่มาจากความ “ไม่เห็นด้วย” กับการจัดเก็บ “ภาษีบาป” แต่เหตุผลประการหนึ่งที่ได้รับมา และน่าฟังยิ่งนัก คือช่วงเวลานี้ อะไรๆ มันก็ขึ้น ที่ไม่ขึ้นอย่างเดียวคือ “เงินเดือน หรือ โบนัส”
คือเสียงคนด่ากำลังจะบอกกับภาครัฐว่า จะขึ้นก็ไม่ว่า แต่เศรษฐกิจเบื้องหน้า (ของจริง) และเงินในมือเงินในกระเป๋าของชาวบ้านก็ต้องขยับขึ้นมาด้วย เพราะการจะมาขึ้นภาษีบาปในภาวะที่ก่อนหน้าน้า ค่าอะไรต่อมิอะไรขยับขึ้นไปรอแล้ว
ประชาชนมีสภาพเหมือนโดนซ้ำเติม แม้จะไม่ได้ดื่มไม่ได้ดูดเหล้า-บุหรี่ก็ตาม!
ฝ่ายด่าว่าเหตุผลกันมา ก่อนหน้านี้ ก๊าซก็เพิ่งลอยตัว และมีขยับกับราคาทั้ง ครัวเรือน และ NGV ขนส่ง ค่าไฟ ค่าข้าวของเครื่องใช้ อะไรๆ ก็ทะยอยขึ้น ค่ารถก็จ่อที่จะขึ้น ค่าเรือขึ้นไปแล้ว โน่นนี่นั่น แล้วไหนจะน้ำมันที่กำลังจ่อจะต้องขยับขึ้นตามภาวะเศรษฐโลกอีกเล่า โห…. มันก็เยอะแยะตาแปะไก่ดังเขาว่าจริงๆ
พวกโลกไม่สวยกลุ่มนี้มองว่า ขึ้นภาษีบาปมาพร้อมๆ กับอะไรต่อมิอะไรที่ขึ้นหรือภาษีที่ขยับหรือจ่อว่าจะขยับมาก่อนหน้านี้ เหมือน “ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” เขวี้ยงหมัดใส่ “กอนซาเลซ” !!
นี่ยังไม่นับรวมข้างหน้า ว่าจะมีภาษีอะไรอีกที่จะคิดค้นหรือเตรียมขึ้นออกมา ที่เห็นๆ ตรงหน้าเรื่องของ VAT 7% ที่ชะลอออกไปก็ยังไม่รู้ว่า ข้างหน้าอนาคตจะปรับเป็น 8 % อีกมั้ย? นี่เป็นคำถามเลย
งานนี้เหมือนประชาชนกำลังเมาหมัดก็มาเจอเข้ากับ หมัดเขวี้ยงเข้าให้อีก แม้เรื่องภาษีบาปคนที่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องจะแค่โดนหมัดเขี้ยงแบบปลายๆ แต่มันก็มีผลทางจิตวิทยาอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
แต่จะยังไง “ภาษีบาป” ก็ปรับขึ้นกันไปแล้ว แม้ว่าจะมีเสียงด่าแต่ก็ยังมีเสียงที่เห็นด้วยอยู่ไม่ใช่น้อย เพียงแต่ “รัฐ” จะรับฟังแต่ฟากโลกสวยอย่างเดียวก็ดูจะเกินไป ลองรับฟังเสียงจากอีกฟากดูบ้างก็ได้
ที่ว่า “ภาษีบาป” ขึ้นแต่ละครั้ง คนคิดเหมือน “พระเอก” เพราะขึ้นแล้วได้บุญที่ช่วยให้ประชาชนไม่ต้องพึ่งพาอบายมุขหรือทำให้คนใช้ของเหล่านี้น้อยลงก็ว่าได้
แต่บุญที่ได้มาหนนี้ ระวังมันจะเป็น “เพลิงบุญ” เพราะมันอาจเป็นบุญที่ “ร้อน” เพราะเล่นมาแบบคอมโบ้เซทตะบี้ตะบันตะพึดตะพือ จะขึ้นอย่างเดียว โดยไม่เว้นช่วงเวลาให้หายใจหายคอ
และเป็น “พระเอก” แบบ “คุณฤกษ์” ที่ดูมึนๆ โดนสังคม “ยี้” เพราะพลาดเพียงครั้งเดียว !
สุดท้าย ระวังจะกลายเป็น “เพลิงบุญจากภาษีบาป” ที่ลามกลายไปลบกลบเสียงชื่นชม จากนโยบายดีๆ เรื่อง “สวัสดิการรัฐ” และ ลามกลายเป็น “เสี่ยงต่อเรื่องของการเมืองในปีหน้า2561 นะ ….
ภาคินสัน
เครติดภาพประกอบจากเว็ปไซต์ต่างประเทศ