สหรัฐฯ พอใจ ไทยเดินหน้าแก้ไขกฎหมายคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพแรงงาน ตามมาตรฐานองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญการต่ออายุ GSP
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการพบหารือกับนายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 กันยาน 2560 ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า สหรัฐฯ ยินดีและพอใจที่ไทยมีความคืบหน้าการดำเนินการปรับแก้ไขกฎหมายคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพแรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO โดยนางอภิรดีฯ แจ้งว่า ได้ขอให้สหรัฐฯ ปิดการไต่สวนกรณีที่สมาพันธ์แรงงานสหรัฐฯ (AFL-CIO) กล่าวหาว่า ไทยยังไม่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของแรงงานอย่างเพียงพอ ซึ่งรวมถึงแรงงานต่างด้าวตามมาตรฐานสากล เนื่องจากไทยได้เดินหน้าเพื่อปรับแก้ไขกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ILO แล้ว และคาดว่าร่างกฎหมายจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสมาพันธ์แรงงานสหรัฐฯ (AFL-CIO) ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เมื่อเดือนตุลาคม 2556 ขอให้ถอดถอนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่สหรัฐฯ ให้ไทย เนื่องจากเห็นว่าไทยไม่ได้มีการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพแรงงาน ซึ่งรวมถึงแรงงานต่างด้าว ตามมาตรฐานสากล โดยที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ และเมื่อสหรัฐฯ ตัดสินใจต่ออายุโครงการ GSP ให้ไทยไปจนถึงสิ้นปี 2560 AFL-CIO จึงได้ยื่นคำร้องต่อ USTR อีกครั้งในปี 2558 ขอให้ถอดไทยออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิ GSP โดยอ้างเหตุผลว่า การคุ้มครองสิทธิแรงงานของไทยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ILO
นางอภิรดีฯ เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์สำคัญที่สหรัฐฯ ใช้พิจารณาให้ GSP แก่ประเทศคู่ค้าที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงไทย คือ ระดับการพัฒนาประเทศ โดยจะต้องมีรายได้มวลรวมประชาขาติต่อหัว (Gross National Income per capita : GNI per capita) ไม่สูงกว่า 12,475 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งระดับ GNI per capita ของไทยประมาณ 5,720 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนั้น ประเทศที่จะได้รับสิทธิ GSP จะต้องมีการเปิดตลาดสินค้าและบริการอย่างสมเหตุผล มีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และมีการคุ้มครองแรงงานในระดับมาตรฐานสากล
ในส่วนของแรงงาน ไทยโดยกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการยกร่างพ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ และร่างพ.ร.บ. วิสาหกิจสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี และ สนช. โดยมีแผนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีในเดือนกันยายน 2560 และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ในเดือนธันวาคม 2560 ในโอกาสพบหารือกับรัฐมนตรีพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ครั้งนี้ ไทยจึงได้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงาน และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปิดการไต่สวนกรณีที่สมาพันธ์แรงงานสหรัฐฯ หยิบยก ซึ่งสหรัฐฯ พอใจที่ไทยมีการดำเนินการเพื่อปรับแก้ไขกฎหมายที่ชัดเจน จึงน่าจะนำไปสู่การปิดคำร้องทบทวนการให้สิทธิ GSP แก่ไทย ตามที่ AFL-CIO กล่าวหาไทยต่อไป
ไทยถือเป็นประเทศที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ของสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับ 2 (รองจากอินเดีย) โดยในปี 2559 ไทยใช้สิทธิ GSP เป็นมูลค่า 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้ GSP ร้อยละ 70 ของรายการสินค้าที่ได้ GSP โดยสินค้าไทยที่ได้รับสิทธิ GSP จากสหรัฐฯ ในปัจจุบันมีกว่า 3,400 รายการ เช่น ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่ม ถุงมือทำจากยาง เป็นต้น ทำให้สินค้าไทยที่ได้รับสิทธิ GSP มีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากได้รับยกเว้นภาษีนำเข้า