ได้เวลาภาษีบาป ขึ้นราคาเหล้า-บุหรี่ เตือนห้ามฉวยโอกาสกักตุน

กฎหมายภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้วันนี้ (16 กันยายน 2560) อธิบดีสรรพสามิตกำชับเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามดูสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้มีการกักตุนสินค้า และฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอื่นที่ไม่อยู่ในรายการ

Advertisement

       นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในวันนี้ (16 กันยายน 2560) พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ได้มีผลใช้บังคับ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบกฎหมายภาษีสรรพสามิตและแนวทางการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส เป็นสากล และลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้การจัดเก็บภาษีสุรา ให้คงการจัดเก็บภาษีแบบระบบผสม ทั้งในอัตราตามมูลค่าเพื่อสะท้อนถึงความฟุ่มเฟือย และอัตราตามปริมาณเพื่อสะท้อนถึงหลักสุขภาพ ซึ่งสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีมากยิ่งขึ้น

ให้มีการปรับลดภาษีตามมูลค่าและเพิ่มอัตราภาษีตามปริมาณ (แรงแอลกอฮอล์) เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยคำนึงถึงสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยอัตราภาษีใหม่จะไม่ทำให้มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นมากนัก ตามหลักรายได้คงที่ (Revenue Neutrality) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคสุราที่มีดีกรีต่ำ และลดปัญหาสุราเถื่อน

และปรับลดอัตราภาษีตามมูลค่า เนื่องจากฐานภาษีได้ปรับจากราคาขายส่งช่วงสุดท้ายเป็นราคาขายปลีกแนะนำ

ในส่วนของการจัดเก็บภาษียาสูบ ให้จัดเก็บภาษีแบบระบบผสม ทั้งในอัตราตามมูลค่าเพื่อสะท้อนถึงความฟุ่มเฟือย และอัตราตามปริมาณ เพื่อสะท้อนถึงหลักคุณภาพ จากเดิมที่จัดเก็บภาษีตามมูลค่าหรือตามปริมาณที่ให้ภาระภาษีสูงกว่าส่งผลให้ราคาขายปลีกบุหรี่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้จะมีการจัดเก็บภาษีตามมูลค่าใน 2 อัตราที่แตกต่างกัน ระหว่างบุหรี่ที่มีราคาขายปลีกไม่เกิน 60 บาทต่อซอง และเกิน 60 บาทต่อซอง เป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้เวลาในการปรับตัวของอุตสาหกรรมบุหรี่ หลังจากนั้นจะจัดเก็บภาษีตามมูลค่าในอัตราเท่ากัน

รวมทั้งจัดเก็บภาษีตามปริมาณในอัตราเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการบริโภคบุหรี่ราคาถูก ขยายฐานภาษียาสูบให้ครอบคลุมถึงยาเส้นพันธุ์พื้นเมือง และลดการเข้าถึงการบริโภคยาสูบ โดยยึดหลักสากลในการสร้างความเท่าเทียมในการจัดเก็บภาษีของบุหรี่

อย่างไรก็ตามการปรับอัตราภาษีครั้งนี้ไม่ได้ทำให้สินค้าส่วนใหญ่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้น จึงไม่ควรส่งผลกระทบราคาขายปลีก และขอเตือนผู้ประกอบการอย่ากักตุนสินค้า ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตลงพื้นที่ติดตามดูสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้มีการกักตุนสินค้า

        “ตามรายงานเบื้องต้นนั้น อัตราราคาใหม่ ราคาเบียร์กระป๋อง มีราคาปรับเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ ต่อกระป๋อง เบียร์ขวด มีราคาเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อขวด เหล้าสี 28 ดีกรี ราคาเพิ่ม 8 บาทต่อ 700 ซีซี เหล้าสี 40 ดีกรี ราคาเพิ่ม 30 บาท ต่อ 700 ซีซี

          ขณะที่บุหรี่ที่มีราคาต่ำกว่า 60 บาท จะมีราคาเพิ่ม 4-15 บาทต่อซอง และบุหรี่ราคาเกิน 60 บาท จะมีราคาเพิ่ม 2-10 บาทต่อซอง”