เผยเหตุถังดับเพลิงระเบิดที่ราชวินิตมัธยมจนเป็นเหตุให้นร.บาดเจ็บ-เสียชีวิต อาจเกิดจากใช้ถังเก่า!!

อ.อ๊อด กูรูชื่อดังชี้ เหตุถังดับเพลิงระเบิดที่ระหว่างซ้อมที่ราชวินิตมัธยม จนเป็นเหตุให้นร.บาดเจ็บ-เสียชีวิต อาจเกิดจากใช้ถังเก่า ขณะที่ความคืบหน้าคดี ตำรวจนำ 3 จนท.ดับเพลิงสามเสน แจ้งข้องหาพร้อมฝากขัง 

Advertisement

หลังเกิดเหตุระเบิดภายในโรงเรียนราชวินิตมัธยม จนเป็นให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 5 ราย โดยเหตุเกิดช่วงเช้าวานนี้ (23 มิ.ย.66) เวลา 11.00 น. ทางโรงเรียนได้เชิญเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามเสนมา ทำการซักซ้อมการควบคุมเพลิง พร้อมวิธีการอพยพ ให้กับเด็กนักเรียน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เปิดแก๊สถังขนาด 20 กก. และทำการจุดไฟเพื่อสาธิตวิธีการดับไฟเบื้องต้น แก๊สได้รั่วไหลออกมาจนเป็นเหตุให้ระเบิดจนทำให้ผู้เสียชีวิตกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่เป็นวิทยากร และเพื่อนนักเรียนอีกหลายรายได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกันโดยหลังเกิดเหตุได้มีผู้เกี่ยวข้องอาทิ นส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ และเร่งให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน

ด้านผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อย่าง รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นว่า “กรณีดังกล่าวเป็นการระบิดของถังดับเพลิงที่บรรจุคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และสารเคมีในการดับไฟภายในถัง ปกติแล้วถังดับเพลิงสีแดง จะทนแรงดันได้ประมาณ 1800 PSI หรือ 126 กิโลกรัมต่อลูกบาศเซ็นติเมตร ถ้าแรงดันมากกว่านี้จะเกิดการฉีกขาด ดังนั้นเมื่อถังดับเพลิงเกิดการระเบิดขึ้นแสดงว่าแรงดันภานในถังมีมากกว่า 1800 PSI หรือ 126 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เซ็นติเมตร

ส่วนสาเหตุที่ถังดับเพลิงมีแรงดันสูง มี 2 สาเหตุ1. ถังเก่า เกิดการขึ้นสนิม ทำให้ภาชนะเหล็กที่อยู่ภายนอกไม่สามารถทนแรงดันที่ขยายจากด้านในด้าน และในระหว่างการใช้จะมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และสารเคมีในการดับไฟไปบางส่วน แต่แรงดันที่ยังสูงอยู่ทำให้ถังฉีกขาดได้ 2. มีการบรรจุใหม่ โดยเป็นถังเก่า บางครั้งอาจจะอัดแรงดันเข้าไปข้างในมากกว่า 1800 PSI ก็เกิดความเสี่ยงอันตรายได้

และในกรณีที่ถังไปอยู่ในจุดที่มีความร้อนสูง เช่น ตากแดด ซึ่งในภาพข่าวมีถังดับเพลิงวางตากแดดเยอะมาก ซึ่งจะทำให้อากาศด้านในเกิดการขยายตัวแล้วถ้ามีแรงดันมากกว่า 1800 PSI ก็เกิดการระเบิดได้ทันทีทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะถือเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทหรือไม่ก็ต้องไปสืบสวนสอบสวนกัน อย่างไรก็ตามถือเป็นบทเรียน ซึ่งกิจกรรมที่เกิดขึ้นถือเป็นกิจกรรมที่ดี แต่อุปกรณ์ดับเพลิงต้องมีมาตรฐานและปลอดภัยด้วย”

อย่างไรก็ตามในส่วนความรับผิดชอบของหน่วยงานอย่าง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ชุดเจ้าหน้าที่ชุดสาธิตของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตสามเสน ทั้ง 7 นาย ว่า ส่วนตัวต้องการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนว่า ถังดับเพลิง Co2 ที่เกิดระเบิด นั้น ปกติแล้วมีความปลอดภัยในระดับสูง​

เนื่องจากการอัดแก๊สเข้าไปในถังดับเพลิง ทางโรงงานจะตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง​​ จึงไม่อยากให้ประชาชน ตื่นตระหนก ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน ได้นำถังดับเพลิงดังกล่าวไปอัดแก๊ส ก่อนจะนำมาวางไว้ภายในสำนักงาน โดยไม่ได้แตะต้อง หรือทำให้เกิดความเสียหาย กระทั่งมีการนำไปใช้สาธิตในวันนี้ จนกระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น โดยหลังจากนี้ จะระงับการใช้ ถังดับเพลิง Co2 ​ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย

 

โดย ถังดับเพลิงระเบิด นั้น นำ้หนักอยู่ที่ 15 กก. ตัวอัดอยู่ที่แรงดันปกติ ส่วนเหตุผลที่ใช้ ถังดับเพลิงCo2  ถ้าใช้ถังผงเคมีจะฟุ้ง พื้นที่แคบจะรบกวน หากโดนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะฟุ้ง ปกติจะให้ ถังดับเพลิงCo2 สาธิต เพราะไมทิ้งคาบ ทำความสะอาดได้ง่ายตั้งแต่ตนเคยปฏิบัติงานมาไม่เคยมีเหตุการถังระเบิด เพราะเป็นถังที่ปลอดภัย ดด้วยมาตรการผลิต และน้ำหนักที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งการอัดคาร์บอนก็อัดที่โรงงานได้มาตรฐาน พร้อมทั้งให้โรงเรียนตรวจสอบความปลอดภัยของถังว่ามีจุดไหนที่ชำรุด หรือไม่ หากพบเสียหายต้องซ่อมทันที หรือเลิกใช้ถังนั้นทันที

สำหรับผู้สาธิต ทั้ง 3 ราย ที่ถูกแจ้งข้อหา ยังอยู่ในอาการหวั่นวิตก และเสียใจ โดยหลังจากนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายซี่งทางหน่วยงานต้นสังกัด จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยจะยื่นหลักฐานเอกสาร เพื่อประกันตัว​ ทั้ง​ 3 คน​ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และทั้ง 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่มีใครคิดหนีอย่างแน่นอน”

สำหรับความคืบหน้าเกี่วกับคดีล่าสุด วันนี้ (24 มิ.ย.66) พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง นัดหมายเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีสามเสนชุดสาธิต รวม 3 นาย ส่งฝากขังยังศาลอาญารัชดา ผัดแรกใน 2 ข้อหาได้แก่ ความผิด ตามมาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมาตรา 390 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส