บางจากเทคโอเวอร์กิจการปํ๊มน้ำมันเอสโซ่ในประเทศไทย ตามแผนเสริมแกร่งหวังดันปั๊มเขียวพุ่งทั่วไทยกว่า 2,100 แห่งในอนาคตอันใกล้ พร้อมหนุนธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น
บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมบริษัทเห็นชอบการเข้าซื้อหุ้น และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) ผ่านการซื้อหุ้นสามัญโดยจำนวน 2,283,750,000 หุ้น หรือ 65.99% ของกิจการดังกล่าวจาก ExxonMobil Asia Holdings โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2023
บางจาก คาดว่า บริษัทสามารถทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้ในระยะเวลา 12 เดือน หลังจากวันทำสัญญา นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ เอสโซ่ จำนวนไม่เกิน 1,177,108,000 หุ้น หรือ 34.01% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ เอสโซ่ ณ วันที่ 30 ก.ย. 2022
หากผู้ถือหุ้นทุกรายของเอสโซ่ตอบรับข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ บางจากจะต้องลงทุน 33,312 ล้านบาท ในกรณีที่คำนวณราคาซื้อขายอ้างอิงจากงบการเงินวันที่ 30 มิ.ย. 2022 หรือ 30,608 ล้านบาท ในกรณีที่คำนวณราคาซื้อขายอ้างอิงจากงบการเงินวันที่ 30 ก.ย. 2022
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลถึงการจัดสินใจการ การลงทุนครั้งนี้ ของบางจากว่า “เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางพลังงานที่มากขึ้นของบางจากฯ และประเทศไทย เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืนและเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น เชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมสู่บริบทใหม่สำหรับบางจากฯ และประเทศไทย
การลงทุนครั้งนี้มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องคือโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง ก่อให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบริษัท โดยจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้งสอง และการให้บริการด้านการตลาดที่ครอบคลุมและนำเสนอบริการให้กับลูกค้าได้ยิ่งขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี ช่วยเพิ่มพูนทักษะและความสามารถของพนักงาน สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและก่อให้เกิดการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสู่ลูกค้า และเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มบริษัทบางจากในการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น หรือประมาณ 2หมื่นล้านบาท โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้
สำหรับแหล่งเงินทุน บางจากฯ จะใช้เงินทุนทั้งแหล่งภายนอกจากสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และจากกระแสเงินสดภายในบริษัทและเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นจาก ExxonMobil เสร็จสิ้น อนึ่ง ExxonMobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2566