ตระเวนเที่ยวตลาดต้องชม”ใกล้กรุง เก็บตกช่วงต่อเนื่องปีใหม่มีที่ไหนน่าไปบ้าง…เช็คด่วน

ช่วงนี้ใครอยู่กรุงเทพฯ ไม่อยากเดินทางไกล อยากใช้ชีวิตสโลไลฟ์สบาย ๆ ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 ชวนเที่ยว”ตลาดต้องชม”ใกล้กรุงที่เปิดให้บริการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ จับจ่ายใช้สอยของกินของใช้ สินค้าผลิตภัณฑ์ฝีมือชาวบ้าน อาหารอร่อย ๆ ได้ช้อป ได้ชิมของหายากเป็นกรณีพิเศษระหว่าง 24 ธันวาคม 2565 – 8 มกราคม 2566 ตามโครงการของกรมการค้าภายในหรือคน. กระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการให้ประชาชนผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยสินค้าชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

Advertisement

เริ่มกันที่”ตลาดนางเลิ้ง” ย่านใจกลางกรุง ชุมชนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกินอร่อยทั้งอาหารคาวหวานมีให้เลือกมากมาย เรียกได้ว่าย่านโปรดของนักชิมต้องมีชื่อตลาดนางเลิ้งอยู่ในอันดับต้น ๆ
นอกจากมีของกินอร่อยถูกปากแล้วยังมีตึกเก่าโบราณและสถาปัตยกรรมที่สวยงามถูกตาต้อใจอีกด้วย ตลาดแห่งนี้ยังเป็นชุมชนที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และเป็นตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี มีร้านอาหารมากมายกระจายอยู่แทบทุกจุด มีทั้งแบบหรูหราและแนวสตรีทฟู้ด ไม่ว่าจะเป็น ‘ร้านนันทาขนมไทย’ ร้านขนมไทยสูตรโบราณแท้ ๆ ที่สืบทอดจากต้นเครื่องวังหลังมานานกว่า 40 ปี แล้ว หรือร้าน ’เป็ดพะโล้ ส.รุ่งโรจน์’ ร้านเป็ดพะโล้ เป็ดตุ๋นเจ้าดังที่เปิดขายเคียงคู่กับตลาดนางเลิ้งมากว่า 60 ปี

ถัดมาย่านชานกรุงทางตะวันตก ไม่มีใครไม่รู้จัก”ตลาดน้ำคลองลัดมะยม”ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ริมคลองลัดมะยม แขวงบางระบาด เขตตลิ่งชัน เป็นตลาดน้ำที่มีบรรยากาศเรียบง่ายกับวิถีชีวิตของผู้คนสองฝั่งแม่น้ำ ปัจจุบันมีการขยายพื้นที่มากถึง 8 โชนให้เดินทอดน่องเยี่ยมชม แต่ละโซนมีความหลากหลาย อาทิ โซนร้านอร่อยคลองลัดมะยม ถือเป็นอีกไฮไลท์ของตลาดแห่งนี้ เพราะมีทั้งอาหารคาวหวานให้เลือกมากมาย ซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่น หรือโชนล่องเรือชมธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวบ้านสองฝั่งลำน้ำ ใช้เวลาเดนทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติประมาณ 40-50 นาที โดยเรือลำหนึ่งนั่งได้เฉลี่ย 8 คน ค่าเรือไม่แพงเก็บคนละ 20 บาทหรือใครมาเป็นกลุ่มก็สามารถเช่าเหมาลำไปเที่ยวได้อีกด้วย อีกโซนเป็นที่สนใจของเด็ก ๆ คือโซนน่ารักตลาดน้ำ เป็นโซนศิลปะขนาดย่อมให้เด็ก ๆ มานั่งวาดภาพระบายสี มีกระถางต้นน้ำน่ารักให้นั่งเพ้นท์แล้วยังมีร้านจำหน่ายโปสการ์ด ของที่ระลึกและสมุนไพรไทยหายากอีกมากมาย

แต่ที่ห้ามพลาดทุกคนที่มาเที่ยวตลาดน้ำแห่งนี้จะต้อบได้ลองชิมลิ้มรสชาดขนมไทยโบราณ ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายอย่าง อาทิ ขนมโค ขนมไทยตำรับปักษ์ใต้แท้ รสชาติหอมหวานมัน มีให้เลือกทั้งคลุกมะพร้าวและงา นอกจากจะมีของอร่อย ๆ ให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีของที่ระลึกต่าง ๆ ให้ซื้อเป็นของฝากของขวัญ ไม่ว่าจะเป็นถุงผ้าแฮนด์เมด หมวกฟาง กระเป๋าสาน เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สมนุไพร เป็นต้น

รัตนาภรณ์ ธนะเจริญชัยสิริ เจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมไทยโบราณ ภายใต้แบรนด์” น้องแหวนนะจ๊ะ เล่าว่าได้เปิดขายขนมไทยโบราณมานานหลายปีแล้ว มีมากมายหลายชนิดทั้งขนมโคกะทิ ขนมโคคลุกมะพร้าวอ่อน ขนมถ้วยฟู ขนมชั้น ลอดช่องแห้ง ขนมสาคู โดยได้สูตรมาจากคุณย่า วัตถุดิบที่ใช้ทำเน้นจากธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่าย โดยเฉพาะสีผสมในขนมชนิดต่าง ๆ อย่างเช่นสีน้ำเงินจากดอกอัญชัญ สีเขียวจากใบเตย เป็นต้น และใช้ใบตองมาบรรจุหีบห่อ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค

“ปกติจะขายอยู่ในโซนอาหารอร่อย บางครั้งก็จะไปออกงานอีเว้นก็จะไม่ได้ขายที่ตลาด เพราะเราทำเองไม่มีลูกจ้างไม่มีสาขา หากใครอยากทานขนมไทยโบราณสูตรคุณย่าแวะมาที่โซนอาหารอร่อย ตลาดน้ำคลองลักมะยมเลยค่ะ”เจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมไทยโบราณ ภายใต้แบรนด์”น้องแหวนนะจ๊ะ”กล่าวเชิญชวน

ส่วนชานกรุงด้านตะวันออกมี”ตลาดน้ำบึงพระยา” หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนทร์” ตั้งอยู่ริมถ.พระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เป็นตลาดน้ำแห่งใหม่สุดอินเทรนด์ของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในบริเวณริมคลองพระยาสุเรนทร์ ซึ่งเป็นคลองที่ทอดผ่านหน้าวัดพระยาสุเรนทร์ อันเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 120 ปี นับเป็นตลาดที่มีกลิ่นอายของความคลาสสิก ผสานกับบรรยากาศความเป็นชนบทของชุมชนริมคลองที่มีสวนผลไม้และแมกไม้อันเขียวขจีรายล้อมรอบทิศ ภายในตลาดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย โดยบรรยากาศภายในประกอบไปด้วยร้านค้าที่แบ่งเป็นล็อก ๆ จำนวนกว่า 200 ร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายอาหารคาวหวานที่มีให้เลือกมากมายละลานตา อาทิ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเผ็ดจี๊ดจ๊าด น้ำพริกป้าติ๋วรสแซ่บ หอยทอดกระทะร้อน ห่อหมก เมี่ยง กุ้งเผา กุยช่ายทอด ปลานิลย่างเกลือ ข้าวหมูตุ๋นไหหลำ ขนมไทยโบราณ ขนมหม้อแกง ขนมชั้น ขนมถ้วยโบราณ ขนมลูกชุบ ขนมลอดช่องแตงไทยน้ำกะทิ ขนมตุ๊บตั๊บโบราณที่ทำให้เห็นกันสด ๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังร้านค้าขายของจุกจิก ของที่ระลึก รวมไปถึงร้านขายของฝากมากมายในราคาย่อมเยาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นตลาดน้ำบริเวณชานเมืองที่สามารถสัมผัสกับเสน่ห์ของวิถีชีวิตชุมชนริมคลองได้อย่างไม่รู้สึกเบื่อ

 

จิรปุณย์ ทองไทยหรือป้าผัน เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้สูตรดั้งเดิมและอีกหลากหลายเมนูตรา”แม่ผัน ข้าวยำปักษ์ใต้” ซึ่งจำหน่ายอยู่ที่ตลาดน้ำบึงพระยามานานกว่า 10 ปีแล้วเผยว่าบ้านเดิมอยู่ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อกว่า 10 ปีก่อนก็มาอยู่กรุงเทพฯที่เขตคลองสามวาและยึดอาชีพขายอาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้สูตรดั้งเดิมอยู่ที่ตลาดน้ำบึงพระยาหรือตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนท์ โดยจะเน้นอาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้ เช่นแกงไตปลาแห้ง ข้าวยำสมุนไพร น้ำบุดูบรรจุขวด ข้าคลุกกะปิ ข้าวห่อใบบัวสูตรโบราณ น้ำพริกมะขาม เป็นต้น ทำเป็นธุรกิจครอบครัว นอกจากขายที่ตลาดน้ำบึงพระยาแล้วยังออกอีเว้นท์ต่าง ๆ อีกด้วย

“อย่างน้ำบุดูบรรจุขวด นอกจากขายทั่วไปแล้วยังส่งขายที่ดูใบด้วย แต่ละสัปดาห์จะมีออเดอร์เข้ามาหลายร้อยขวด อาหารทุกอย่างทำเองทั้งหมด ทำเองขายเองทั้งหมด ไม่มีลูกจ้างแต่อย่างใด ที่มาช่วยทำก็จะเป็นญาติพี่น้องเครือญาติกัน ถ้าใครมาเที่ยวตลาดน้ำบึงพระยาไม่ได้ทานข้าวยำแม่ผัน ถือว่ามาไม่ถึงตลาดน้ำ”จิรปุณย์ ทองไทย เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้ตรา”แม่ผัน ข้าวยำปักษ์ใต้”เผย พร้อมอธิบายสูตรข้าวยำปักษ์ใต้ว่าไฮไลท์อยู่ที่น้ำบุดู โดยมีส่วนประกอบ ข้าวสวย 1 ถ้วย น้ำบุดู 1-2 ช้อนโต๊ะ ปลาป่น 1 ช้อนโต๊ะ มะพร้าวคั่ว 2ช้อนโต๊ะ พริกป่น มะม่วงซอยและมะนาว ผักสด เช่นถั่วฝักยาว ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบชะพลูและผักตามที่ชอบต่าง ๆ

สุดท้ายมาที่”ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” ตั้งอยู่ที่ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงอีกแห่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้จากการนำผลผลิตในท้องถิ่นมาจำหน่าย ภายในตลาดมีร้านค้ามากมาย ขายอาหารพื้นบ้านทั้งคาวหวาน และสินค้าโอทอปจากคนในชุมชนบางน้ำผึ้ง และตำบลใกล้เคียงในจังหวัดสมุทรปราการ ตลาดน้ำแห่งนี้ เริ่มเปิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2547 เป็นการนำเสนอวิถีชีวิตชาวบ้านริมคลอง ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ และยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอาหารที่มีชื่อเสียงของชุมชน ตัวตลาดยาวกว่า 2 กิโลเมตร มีทั้งแกงบอน ขนมครกหอยทอด ม้าฮ่อ ฝอยเงินทำจากไข่ขาว ผลผลิตของชาวบ้าน เช่น มะม่วง มะพร้าวอ่อน และชมพู่มะเหมี่ยว ตลอดจนสินค้าโอทอปจากทั่วสมุทรปราการทั้งอาหารทะเลแปรรูปไปจนถึงพืชสวนที่นำมาประดิษฐ์เป็นของแต่งบ้าน นอกจากนี้ยังมีสวนร่มรื่นหลังตลาด ตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับสีสดใส นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำ ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมทางส่งเสริมด้านสุขภาพ โดยพ่อค้าแม่ค้าจะใช้พืชสมุนไพรมาเป็นส่วนประกอบในสินค้า เพราะหวังอยากให้คนที่มาตลาดน้ำบางน้ำผึ้งมีสุขภาพที่ดีกลับบ้านไปทุกคน

ผู้สนใจสามารถติตดามรายละเอียดกิจกรรม”ตลาดต้องชม”โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ทั้ง 180 ตลาดทั่วไทยที่เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2565 – วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่เว็บไซต์: : www.dit.go.th Line Official “DIT GO” และ Facebook “กรมการค้าภายใน DIT”