รัฐหนุน เอกชนนำ “จุรินทร์” โชว์วิชั่น “ทำได้ไวทำได้จริง” สร้างความมั่นใจเอกชน เดินหน้าทำเงินเข้าประเทศ พร้อมแจกรางวัลสมาคมการค้าดีเด่น 31 รางวัล
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน มอบรางวัลสมาคมการค้าดีเด่นประจำปี 2565 และปาฐกถาพิเศษเรื่อง นโยบายขยายความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน (Enchancing The Dots) ในการส่งเสริมการส่งออก การค้าชายแดน การบริโภคภายในประเทศ เพื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และมอบรางวัล สมาคมการค้าดีเด่น พร้อมด้วยนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกลุ่มผู้ประกอบการ MOC Biz Club ที่ห้องไดมอนด์ บอลรูม แกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น โฮเทล
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ผ่านมาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้รับการสนับสนุนการทำงานจากท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นอย่างดี มีกลไก กรอ.พาณิชย์ ทำงาน ซึ่งสามารถช่วยภาคเอกชนทำงานแก้ปัญหาและอุปสรรค ท่านช่วยผลักดันทำให้ 7 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกยังโตได้ถึง 11.5% เชื่อเหลือเกินว่าจะทะลุเป้าจาก 4% อาจได้ถึง 8% ต้องให้เครดิตกับกระทรวงพาณิชย์โดยเฉพาะภายใต้การนำของท่านรองนายกรัฐมนตรีดูแลภาคเอกชน เช่น การแก้ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ เรื่องผลไม้ที่ติดขัดในการส่งไปประเทศจีน ช่วยกระตุ้นให้พวกเราจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ และการจับคู่ธุรกิจมีความสำคัญมากและท่านจะพาพวกเราไปบุกตลาดที่ซาอุดีอาระเบียในปลายเดือนนี้ด้วย และสมาคมหอการค้าญี่ปุ่นได้ฝากตนขอบคุณท่านรองนายกฯด้วย การที่ช่วยแก้ปัญหาการเจรจาที่ติดขัดระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์เป็นเวลาช้านาน ทำให้การส่งยานยนต์ไปฟิลิปปินส์เป็นไปด้วยความราบรื่น ทำให้ญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นในการลงทุน ขยายการลงทุนรถอีวีในประเทศไทยด้วย ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลสมาคมการค้าดีเด่นจำนวน 31 โล่รางวัล ซึ่งจะเป็นรางวัลสำคัญในการสร้างขวัญกำลังใจที่ดีให้กับสมาคมการค้าที่มีการบริหารจัดการตามเกณฑ์มาตรฐานสากลกระตุ้นให้สมาคมการค้าพัฒนาองค์กรนำพาธุรกิจฟันฝ่าอุปสรรคและให้ธุรกิจให้สามารถเติบโตตามมาตรฐานธุรกิจสากลได้ต่อไป อย่างมีศักยภาพ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีกทางหนึ่งของประเทศ
จีดีพี ปีที่แล้ว เป็นตัวชี้ว่าเราจะต้องเดินอย่างไร ปีที่แล้ว 2564 การบริโภคภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของจีดีพี มีสัดส่วนถึง 52% การลงทุนในประเทศ 30% และการใช้จ่ายภาครัฐ 18% ดังนั้นการขับเคลื่อนการบริโภคมีความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งในส่วนกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ ที่ตนรับผิดชอบคือการทำงานกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดภายใต้ กรอ.พาณิชย์ (คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์) และหลักคิด “รัฐหนุนเอกชนนำ” การขับเคลื่อนราคาพืชผลการเกษตรเพื่อให้เม็ดเงินลงสู่คนกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศจะได้มีกำลังซื้อ ราคาพืชผลเกษตรตัวสำคัญของประเทศมีผลมาก ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับดีมาก ราคาพืชเกษตรเฉลี่ยดีขึ้นทุกตัว ข้าวเปลือกจ้าวเกวียนละ 9,500 บาท มันสำปะหลัง 3 บาทกว่า/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 10-12 บาท/กก. ยางพารา ยางแผ่นดิบ 50-60 บาท/กก. น้ำยางข้น 51-53 กว่าบาท/กก. ขี้ยาง 23-25 บาท/กก. ปาล์มน้ำมัน 6-8 บาท/กก. และผลไม้ยุคนี้ราคาดีที่สุดยุคหนึ่งตั้งแต่มีประเทศไทยมา ปีที่แล้วจีนปิดด่านเพราะนโยบาย Zero Covid
ซึ่งเราพึ่งตลาดจีนเป็นหลัก เราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยนโยบายเชิงรุกและเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน กำหนดมาตรการตั้งแต่เบื้องต้น 17+1 มาตรการ และแก้ปัญหาระบบโลจิสติกส์ ปรับจากทางบก มาใช้ทางเรือและทางอากาศมากขึ้น การส่งออกผลไม้คล่องตัวขึ้น ราคาพืชผลการเกษตรสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคหนึ่ง เราเน้นวิสัยทัศน์หลักคิดแก้ปัญหาร่วมกับเอกชน เกษตรกร ทุกฝ่าย ทำรุกทำเร็วทำลึก ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อันดับ 1 คือพนักงาน อันดับ 2 คือเกษตรกร เพราะราคาพืชผลเกษตรดีทำให้มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และถ้าพืชเกษตรราคาตกก็มีโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทำมา 3 ปี ขึ้นปีที่ 4 แล้ว ทำให้เกษตรกรมีหลักประกันจากการขายในตลาดและเงินส่วนต่างจากรายได้ที่ประกัน ทำให้เม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบคล่องตัวขึ้น เป็นหลักให้เกษตรกรมั่นใจ และการท่องเที่ยวจะตั้งเป้าปีนี้นักท่องเที่ยว 10 ล้านคน จากเดิม 40 ล้านคน จะมาช่วยกระตุ้นเงินในประเทศได้ไม่น้อยและตัวเลขส่งออก เดือนกรกฎาคม 2565 +4.3% และ 7 เดือนแรก( ม.ค.-ก.ค.) +11.5% เราตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 4% ซึ่งตอนนี้ยังเกินเป้าอยู่ นำเงินเข้าประเทศ 7 เดือน 5.774 ล้านล้านบาท ซึ่งไปได้ดีทุกหมวด แต่หมวดสินค้าอุตสาหกรรมจะมีปัญหานิด เพราะติดขัดปัญหาภาคการผลิต ตรงตัวชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์ที่ขาดแคลนทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างจีนกับไต้หวัน การระงับการส่งซิลิกาซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นฐานของตัวชิป จะกระทบการผลิตสินค้าขั้นต่อไป เนื่องจากจะผลิตได้น้อย เป็นสิ่งที่ต้องแก้ต่อไปพร้อมกับโลก
“จากนี้การส่งออกเหลืออีก 5 เดือน ตนสั่งการไปแล้วสำหรับทูตพาณิชย์ทั่วโลก กำหนดแผนปฏิบัติการที่ละเอียดชัดเจน “ทำได้ไวทำได้จริง” ในรูปแบบของกิจกรรม วางแผนในปี 65 ว่าจะทำกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกให้ได้ 185 กิจกรรม แต่ตอนนี้ปรับเพิ่มกิจกรรมให้การส่งออกทะลุเป้าให้มากที่สุดเพิ่มจาก 185 กิจกรรม เพิ่มอีก 345 กิจกรรม เป็น 530 กิจกรรม ช่วยกันขับเคลื่อนผลักดันร่วมกับเอกชน เพื่อทำตัวเลขส่งออกนำเม็ดเงินเข้าประเทศเพิ่มจีดีพีให้กับประเทศ โดยวันที่ 14 กันยายนนี้ ตนจะประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกและจะเชิญเอกชนมาร่วมประชุมด้วย
ซึ่งอีกไม่กี่วันตนจะนำคณะไปซาอุดีอาระเบีย โดยเป้าหมายของตนมี 2 ข้อ 1.ไปขายของ เพราะตนเป็นหัวหน้าเซลล์แมนประเทศและมีภาคเอกชนที่จะเดินทางไปขายของให้กับซาอุดีอาระเบีย จำนวน 138 ราย จาก 90 บริษัท 2.จะไปซื้อปุ๋ย พาเอกชนไปซื้อปุ๋ยเงื่อนไขพิเศษจากซาอุดีอาระเบีย มาช่วยแก้ปัญหาปุ๋ยขาดให้มีปริมาณปุ๋ยพอสำหรับเกษตรกรใช้ และเจรจาให้มาเร่งรัดการตรวจโรงงานฮาลาลในประเทศไทย จากเดิมตรวจแล้ว 11 โรง จะเร่งให้มาตรวจอีก 25 โรง และอีกประเทศที่จะไปในตนเดือนหน้าคือมองโกเลีย เพื่อสร้างอนาคตไว้ให้กับประเทศ โดยไปขอตั้ง JTC (Joint Trade Committee )กับมองโกเลีย และได้พบกับนายกรัฐมนตรีของมองโกเลียด้วย และการค้าชายแดนตัวเลขยังดี 7 เดือนแรกปีนี้ +20% ทำเงินให้ประเทศ 376,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเดิมเปิดด่านได้ 57 ด่านจาก 96 ด่าน ตอนนี้เป็น 60 ด่านแล้ว และจะเร่งเปิดเพิ่มเพื่อให้การค้าชายแดนเดินต่อไปได้ “รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ภายในงานมีสมาคมการค้าและผู้ที่ได้รับรางวัลรวมทั้งหมด 31 โล่รางวัล ประเภทสมาคมการค้าดีเด่น จำนวน 26 โล่รางวัล ได้แก่ รางวัลสมาคมการค้ายอดเยี่ยม จำนวน 6 โล่รางวัล รางวัลสมาคมการค้าดีเด่นรายมิติ จำนวน 20 โล่รางวัล และประเภทนายกและกรรมการศักยภาพดีเด่น จำนวน 5 โล่รางวัล ได้แก่ รางวัลนายกสมาคมการค้าดีเด่น จำนวน 2 โล่รางวัล และรางวัลกรรมการศักกยภาพดีเด่น จำนวน 3 โล่รางวัล