หม่อนไหมไทยปังสุด!! ต่างประเทศสนใจผลิตภัณฑ์ ใช้ขัดฟัน-ทำอาหารสัตว์

อธิบดีกรมหม่อนไหมเดินหน้าส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จ.นครราชสีมา พร้อมผลักดันการนำเส้นไหมพื้นบ้านผลิตไหมไทยขัดฟัน และการปลูกหม่อนเป็นพืชอาหารสัตว์

Advertisement

นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม ติดตามการดำเนินงานการส่งเสริมกิจกรรมด้านหม่อนไหมในพื้นที่โครงการกำลังใจในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และโครงการคืนคนดีสู่สังคม ณ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมี นายไพรัตน์ ขมินทกูล ผู้อำนวยการทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ให้การต้อนรับและแนะนำการดำเนินงานในทัณฑสถานฯ

นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม (กลาง)

ในโอกาสนี้ อธิบดีกรมหม่อนไหมได้เยี่ยมชมแปลงหม่อน ซึ่งศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ได้ส่งเสริมการปลูกหม่อนพันธุ์สกลนคร พันธุ์บุรีรัมย์ และหม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่ โดยในส่วนของการเลี้ยงไหม ได้ส่งเสริมให้เลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้าน ได้แก่ พันธุ์สำโรง ไหมพันธุ์ไทยลูกผสม ได้แก่ พันธุ์เหลืองสระบุรี และต่อมาได้ขยายผลให้เลี้ยงไหมพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศ ได้แก่ พันธุ์จุล 4 และจุล 6 ซึ่งเป็นไหมอุตสาหกรรม โดยจำหน่ายรังไหมให้กับบริษัท จุลไหมไทย จำกัด และมีแผนงานที่จะขยายผลเพื่อการผลิตเชิงพานิชย์ในอนาคต จากนั้น ได้ติดตามผลการดำเนินงานการจัดทำจุดเรียนรู้ด้านหม่อนไหม ซึ่งเป็นจุดสาธิตและจัดแสดงองค์ความรู้ด้านหม่อนไหมแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกหม่อน การเลี้ยงไหม การสาวเส้นไหม การแปรรูปผลผลิต เพื่อให้ผู้ต้องขังและผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม

นอกจากนี้ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ยังได้ฝึกอบรมการปลูกหม่อนผลสด เพื่อการแปรรูป และการนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น และมีการกำหนดแผนจะฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านหม่อนไหมในหลากหลายหลักสูตร ได้แก่ การเลี้ยงไหมและผลิตเส้นไหมให้ได้มาตรฐาน การเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม การฟอกย้อมสีเส้นไหมให้ปลอดภัยและได้มาตรฐาน และการทอผ้าไหม

อธิบดีกรมหม่อนไหมยังได้ให้แนวทางในการแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลผลิตและการตลาด พร้อมผลักดันส่งเสริมการเลี้ยงไหมไทยพื้นบ้านพันธุ์ทับทิมสยามเพื่อนำเส้นไหมผลิตไหมไทยขัดฟัน  และการปลูกหม่อนจำหน่ายเป็นพืชอาหารสัตว์ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย กรมฯ พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ และปัจจัยการผลิตที่จำเป็น เพื่อให้สอดรับกับการวางแผนการผลิตและการการขยายตัวของตลาดที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต