นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่า ธปท. มีคำสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงิน (สง.) ในประเทศไทยทำธุรกรรมทางการเงินกับชาวอิหร่านนั้น ไม่เป็นความจริง โดยทาง ธปท. ขอแจ้งให้ทราบว่า ประเทศไทยถือปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติเช่นเดียวกับสมาชิกประเทศอื่นๆ ของสหประชาชาติ
ส่วนหนังสือเวียนของ ธปท. เป็นการกำชับให้ สง. ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้งดการทำธุรกรรมเฉพาะกับบุคคลที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ใน sanction list ของสหประชาชาติ ไม่มีการห้ามทำธุรกรรมกับคนสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง หรือนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางจากประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ และจากการตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยวจากอิหร่านยังสามารถแลกเงินกับธนาคารพาณิชย์อื่นได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ที่ปรากฏในข่าวเร่งดำเนินการสอบสวน และชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบโดยเร็วว่า เหตุใดจึงมีการปฏิบัติตามที่ปรากฏเป็นข่าว ผู้จัดการออนไลน์รายงาน
ข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติ?
ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงในทางปฏิบัตินั้นปรากฏว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมา มีธนาคารพานิชย์อย่างน้อย 2 แห่ง คือธนาคารไทยพานิชย์ และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีเคาเตอร์แลกเงินอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิที่มีมาตรการเข้มงวดในการแลกเงินกับชาวอิหร่าน
สำนักข่าเดอะพับลิกโพสต์รายงานว่า ในส่วนธนาคารกสิกรไทยนั้น เจ้าหน้าที่บริษัททัวร์รายหนึ่งที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อบอก ตนได้ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่จุดบริการแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า จะใช้วิธีการสแกนหนังสือเดินทาง หากไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีแบล็คลิสต์ก็สามารถแลกได้ตามปรกติ
แต่สำหรับธนาคารไทยพานิชย์นั้นได้ปฏิเสธรับแลกเงินกับนักท่องเที่ยวชาวอิหร่านทุกคนโดยไม่มีการตรวจสอบว่าผู้ถือสัญชาติอิหร่านเหล่านั้นมีชื่ออยู่ในบัญชีแซงชั่นของสหประชาชาติหรือไม่
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากพับบลิคโพส