สถานการณ์การประท้วงในสหรัฐอเมริกาเริ่มจะวุ่นวายขึ้นมาเป็นลำดับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม“จอร์ช ฟรอยด์”โดยภาพที่ออกมาแสดงถึงการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุ และความวุ่นวายนี้ได้ขยายวงกว้างไปในรัฐต่างๆนอกจากนี้ในโลกโซเชียลกระแสการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังมีไปอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะทางทวิตเตอร์ มีการเรียกร้องเรียกร้องให้ทรัมป์ หยุดนโยบายที่เหลื่อมล้ำ และสร้างรอยแยกในสังคม จนถึง ณ ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆเริ่มจะเข้าสู่สภาวะสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที
ไฟแห่งการโกรธแค้นได้โหมกระหน่ำอยู่นอกทำเนียบขาวตั้งเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีการปะทะกันหลายครั้งที่เกิดขึ้นนอกเขตทำเนียบขาว และมีรายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ถูกนำตัวไปที่บังเกอร์ที่ปลอดภัยเป็นพิเศษ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า “หน่วยราชการลับรีบเร่งส่งตัวเขาไปที่บังเกอร์ใต้ดินที่ในอดีตใช้หลบการโจมตีของผู้ก่อการร้าย”
ไทม์ส์ รายงานว่าบังเกอร์ใต้ดินดังกล่าวเป็นสถานที่เดียวกับที่อดีตรองประธานาธิบดี “ดิค เชนี่ย์” ใช้เป็นที่กำบังระหว่างการโจมตีด้วยในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 “ ประธานาธิบดีและครอบครัวของเขาได้รับประสบการณ์มากมายในวันศุกร์
“ทรัมป์” ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากการตอบโต้ของเขาต่อการประท้วง ตั้งแต่วิดีโอการตายของ “ฟลอยด์” เริ่มแพร่กระจายไปในโซเชียลมีเดีย แม้จะมีการประท้วงอย่างสันติและการปะทะกันอย่างดุเดือดกับตำรวจในเมืองใหญ่บางแห่งของอเมริกา แต่ตัวเขาไม่ได้ออกมากล่าวกับประชาชนเลยมีส่งข้อความที่มีกาผ่านทวิตเตอร์แบบซ้ำ ๆ
มีรายงานว่า ที่ทำเนียบประธานาธิบดีได้มีการปิดไฟมืดสนิท นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1889 หรือ 131 ปีที่แสงไฟถูกปิดลง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้าหลบภัยในบังเกอร์ ท่ามกลางการประท้วง เสียงระเบิดและเสียงยิงดังรอบๆ ทำเนียบขาว และการบาดเจ็บในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ขณะที่มีการประกาศเคอร์ฟิวในกรุงวอขิงตัน ดี.ซี.ตั้งแต่ 23.00 น.ถึง 6โมงเช้าจนถึงวันพฤหัสบดี