ผลิตหน้ากากอนามัย1พันล.ชิ้น/ด.! คณะปวงชนชาวไทยฯไฟว้โควิด

คณะปวงชนชาวไทยฯจับมือจีน  ปักหมุดจังหวัดสมุทรสาครตั้งโรงงานผลิตผลิตเดือนละ 1,000 ล้านชิ้น ส่วนหนึ่งนำถวายเป็นพระราชกุศลฉลองรัชกาลใหม่ 10 ออกสู่ตลาดมิถุนายนนี้ จำหน่ายในราคาเป็นธรรมปกติ พร้อมเล็งใช้ยางพาราผลิตหน้ากากอนามัย หวังช่วยเกษตรกร 

Advertisement

น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ หัวหน้าคณะปวงชนชาวไทยเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (ปชก.) ในฐานะประธานโครงการส่งเสริมชีวิตสุขภาพประชาชน บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด ร่วมมือกับพี่น้องร่วมสาบานกลุ่มทุนจีนและเพื่อนสนิทจากประเทศ อิสราเอล มาเลเซีย ระดมทุน 8,000 ล้านบาท เร่งก่อสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยขนาดใหญ่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ฉลองรัชกาลใหม่ (รัชกาลที่ 10) ในปี 2563

สำหรับเครื่องผลิตหน้ากากอนามัย(non-woven melt blown) เป็นเครื่องผลิตที่ทันสมัยด้านเทคโนโลยี นำเข้ามาจากประเทศจีน จำนวน 250 เครื่อง ในเดือนพฤษภาคมนี้หลังจากติดตั้งเครื่องผลิตเสร็จจะสามารถผลิตหน้ากากอนามัยแบบ 3 ชั้น และ 4 ชั้น ได้เดือนละ 250 ล้านชิ้น และเดือนมิถุนายน จะขยายกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 1,000 ล้านชิ้นต่อเดือน เพื่อสนองตอบความต้องการของคนไทยที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยได้มีใช้อย่างเพียงพอ ในราคาปกติเฉกเช่นในอดีตตามท้องตลาดทั่วไป

น.อ. (พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ หัวหน้าคณะปวงชนชาวไทยเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (ปชก.)

“ ขณะนี้กำลังการผลิตในประเทศของเรามีเพียงแค่ 40 ล้านชิ้นต่อเดือนเท่านั้น รวมที่ทางผู้บริหารซีพี กรุณาบริจาคให้อีก 3 ล้านให้ทางการแพทย์ ก็ประมาณ 43 ชิ้นต่อเดือน ผมถามพี่ตู่ว่าจะเอาอะไรไปรบกับเค้า พี่น้องคนไทย 69 ล้านคน ถ้าปรากฏว่าไวรัสระบาดอย่างหนักจะทำอย่างไร ถ้าทุกคนต้องใช้ทุกวัน เดือนหนึ่งเราต้องใช้หน้ากากอนามัยถึง 2 พันล้านชิ้น ถ้า 2 วันเปลี่ยนทีก็ 1 พันล้านชิ้น ผมเห็นใจพี่ตู่ พี่ป้อม (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ) รัฐบาล และพี่น้องประชาชนทุกคน ผมทนอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ขอเข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้ให้เอง แต่ผมไม่ขอยุ่งกับการเมืองของพวกท่าน ผมขอทำงานนี้ถวายสถาบันฯ ช่วยรัฐบาล และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ถามว่ากำลังผลิตขนาดนี้เป็นไปได้หรือ ตอบเลยเป็นไปได้สิครับ คนเราถ้ารู้จักคิดนอกกรอบทำได้หมด อย่าติดกรอบทำให้ท่านเดินไปต่อไม่ได้”

น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ กล่าวต่ออีกว่า “ผมบอกเลยว่าผมตั้งเป้าหมายว่าต้องผลิตให้ได้อย่างน้อย 1,000 ล้านชิ้น และใช้ทุกวิธีการให้สำเร็จ ขอย้ำว่าทุกวิธีการ ดังนั้น ขอให้พี่ตู่ พี่ป้อม  และรัฐบาลอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ผมตั้งใจช่วยท่านด้วยความจริงใจ ผมยืนยันว่าจะมีหน้ากากอนามัยมากพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ราคาสินค้าในตลาดในประเทศจะเป็นปกติ ไม่สูงแบบปัจจุบันพี่น้องประชาชนไม่ต้องแย่งกันหาซื้อแบบนี้ ไม่แอบกักตุนแอบขายกันแบบนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะ supply ไม่พอกับ demand มีความต่างกันมากเกินไป ขอให้เชื่อผม ผมตั้งใจช่วยพี่จริงๆ”

อย่างไรก็ตาม น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ กล่าวว่าเดิมที่ไม่คิดจะมาผลิตเองแบบนี้ เพียงแค่ได้ปรึกษากับคุณพ่อ พล.อ.อ.ธีร์ศิลป์ คัมภีรญาณนนท์ ซึ่งท่านตั้งบริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเพียงไว้ว่าปีนี้เราควรทำอะไรถวายเป็นพระราชกุศล ฉลองรัชกาลใหม่ในสถานการณ์แบบนี้ จึงได้จัดตั้งโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน โดยจะแจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวน 10 ล้านชิ้นให้กับพระสงฆ์และพี่น้องประชาชนที่เดือนร้อนในวันเฉลิมพรรษาของทั้งสองพระองค์ที่จะมาถึง ปรากฏว่าพอติดต่อจะไปขอซื้อและสั่งทำจากผู้ผลิตก็ไม่มีให้ ขอซื้อจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ผ่านท่านจุลินทร์ ก็เห็นใจท่าน เพราะของในปัจจุบันที่มี มันมีจำนวนจำกัดจริงๆ ในที่สุดตัดสินใจทำเองดีที่สุด ตัดปัญหาทุกอย่างด้วยการสร้างโรงงานผลิตเอง ควบคุมเอง ชัดเจนที่สุดแล้ว

สำหรับการแจกหน้ากากอนามัยเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จะมีการแต่งตั้งผู้ประสานงานโครงการฯไปติดต่อประสานงานและแจกจ่ายถวายถึงพระสงฆ์เอง นอกจากนั้นอาจขอประสานผ่านไปทางสำนักงานพระพุทธศาสนาหรือองค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาให้ช่วยติดต่อประสานงานอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันด้านความร่วมมือกับประชาชนทุกคนสามารถประสานงานมาที่โครงการฯ และแต่งตั้งให้เป็นผู้ประสานงานไปยังตำบลและหมู่บ้าน ทางโครงการฯต้องการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยไปทั่วประเทศให้พี่น้องคนไทยทุกคนสามารถหาซื้อได้ในราคาถูกและทั่วถึง

สำหรับแผนงานต่อไปทางโครงการฯมีแนวคิดที่จะเข้าไปสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ซึ่งวันนี้ราคายางพาราตกต่ำมาก จึงมีแนวคิดที่จะศึกษานำยางพารามาแปรรูปผลิตเป็นหน้ากากอนามัยแทนผ้าเพราะมีอายุการใช้งานที่ทนและนานกว่าโดยใช้วิธีเปลี่ยนใส่แผ่นผ้ากรองแทน ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ทุกวัน หากงานศึกษาวิจัยสามารถผลิตได้ก็จะช่วยเกษตรกรชาวสวนยางได้ ที่สำคัญราคายางพารามีโอกาสจะขยับขึ้นได้มากกว่าวันนี้ ขอเวลาอีกระยะหนึ่งเมื่อได้ข้อสรุปผลเป็นที่น่าพอใจก็พร้อมนำยางพารามาแปรรูปผลิตเป็นหน้ากากทันที