นางแน่งน้อย เวทยพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เผยว่า เพื่อเป็นการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองหน้าด่านชายแดนไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รองรับก่อนเปิดเป็นเขตเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ขณะนี้เราจึงเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทยผ่านเครื่องมือในการช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยในทุกมิติอย่างสมดุล ทั้งการต่อยอดการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่ตรงความต้องการของตลาด เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ การขับเคลื่อนผลงานนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์ในรูปแบบของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมเพื่ออนาคต การพัฒนาผู้ประกอบการโดยการเติมองค์ความรู้ ในการเพิ่มผลิตภาพและมาตรฐาน การพัฒนาระบบบริหารจัดการ การบัญชีและการเงินให้ก้าวสู่ SMART SMEs พร้อมส่งเสริมการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเชื่อมโยงสู่โลกการค้าสมัยใหม่ โดยมีศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอีทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินการภายใต้กลไกประชารัฐ ซึ่งกองทุนตามแนวประชารัฐดำเนินการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบกองทุนต่าง ๆ
พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สำหรับการลงพื้นที่ในจังหวัดตาก ครั้งที่ 7 โดยมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในนโยบายการสนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอีจังหวัดยุทธศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศยื่นคำขอทั้ง 4 มาตรการแล้ว 10,558 ราย วงเงิน 30,161.60 ล้านบาท อนุมัติแล้วจำนวน 2,954 ราย ในวงเงิน 8,514.86 ล้านบาท
และสำหรับการลงพื้นที่ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ได้รับการอนุมัติความช่วยเหลือ “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ”ครั้งนี้มีจำนวน 2 ราย ที่ได้รับเงินสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ ซึ่งมีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไขเข้ารับการช่วยเหลือเป็นกิจการผลิตสินค้าคือ
บริษัท ซี ซี แอนดซี การ์เม้นท์ จำกัด อ.แม่สอด จ.ตาก ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปชั้นนำในประเทศ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ เช่น MC และ HARA ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2550 บริหารงานโดย คุณต่อพงศ์เกียรติ จตุรเจริญคุณ กรรมการผู้จัดการ ซึ่งบริษัทมีจุดเด่นด้านการผลิตเสื้อเชิ้ต และด้านทีมงานที่พัฒนาตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจอยู่ในช่วงเติบโตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากเดิมผลิตได้เดือนละ 50,000 ตัวต่อเดือน แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด และเกิดปัญหาขาดกำลังเงินทุน และต้องการแรงงานเพิ่ม จึงได้ทำเรื่องยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการกองทุนตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติสินเชื่อในวงเงิน 3 ล้าน โดยเงินที่ได้จะนำไปจัดซื้อเครื่องจักรเพิ่ม และได้ขอรับบริการด้านการพัฒนาในส่วนของงบประมาณสนับสนุนในการอบรมและพัฒนาเรื่องความรู้ในการผลิตและการบริหารงานแบบผู้นำ โดยผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ขยายแรงงานเพื่อเพิ่มการผลิต ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 30% ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตอีกสองเท่าภายใน 3 ปี
ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่สอดจรรย์สุดา อ.แม่สอด จ.ตาก ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำพริกกุ้งและขนมไทย บริหารงานโดย คุณอรรถกร หมูนวล หุ้นส่วนผู้จัดการ เริ่มแรกก่อตั้งและเริ่มผลิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยคุณจรรยา หมูนวล ได้จดทะเบียนพาณิชย์ในชื่อ “ร้านจรรย์สุดดา” ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2541 จนกระทั่งได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในชื่อ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่สอด จรรย์สุดา” ในวันที่ 16 สิงหาคม 2559 โดยผลิตและจำหน่ายน้ำพริกกุ้งและขนมไทย ตรา “จรรย์สุดา”น้ำพริกกุ้ง ได้แก่ น้ำพริกกุ้งสูตรดั้งเดิม น้ำพริกกุ้งสูตรเผ็ดน้อย น้ำพริกกุ้งสูตรเข้มข้น และ น้ำพริกกุ้งสูตรแห้งกรอบ จำหน่ายทั้งแบบปลีกและส่ง ที่มีความต้องการที่จะขยายงานในด้านกำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับการอนุมัติสินเชื่อในวงเงิน 2.17 ล้านบาท โดยนำมาก่อสร้างอาคารโรงงาน ซื้อเครื่องจักร และค่าดำเนินการขอรับรองระบบมาตรฐานต่าง ๆ ในด้านกำลังการผลิตน้ำพริกกุ้งให้เพิ่มมากขึ้น และยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล
ทั้งนี้ สถานประกอบการทั้ง 2 แห่ง มีความตั้งใจที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นแต่ยังขาดปัจจัยด้านเงินทุน ทางกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จึงได้ให้ความดูแลและช่วยเหลือ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้และยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะได้เร่งขยายผลการดำเนินงานในลักษณะนี้ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศโดยเร็วต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทุกสาขา และศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี www.smessrc.com หรือ Call Center 1358