จัดศูนย์เฝ้าระวังในภูมิภาคเชื่อมรพ.ทุกจว.ทั่วปท. เร่งรับมือ โควิด-19 ปลัดสธ.คาดหน้าร้อนการแพร่ระบาดอาจคลี่คลาย ย้ำทุกคนทำงานเต็มที่ ดูแลบุคลากรอย่างดี
น.พ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด – 19 ในส่วนของภูมิภาค โดยได้เตรียม บุคลากร เครื่องมือ และเตรียมศูนย์เฝ้าระวัง ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ เพื่อรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งคาดว่าในช่วงฤดูร้อนนี้ สถานการณ์อาจคลี่คลายลงจากสภาพอากาศตามฤดูกาลปกติของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมพร้อมไปยังศูนย์เฝ้าระวังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กับรพ.จุฬาฯ ขยายสู่ศูนย์ระดับภูมิภาคอีก 6 แห่งและอีก13สาขาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พร้อมกับขยายสู่รพ.ทุกจังหวัด รวมถึงการเตรียมการด้านบุคลากร
“ตอนนี้ยังไม่ประกาศเป็นภาวะรุนแรงระดับ3 เพราะมีการทำงานกันอย่างเต็มที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของบุคลากรมีการป้องกันในระดับสูงสุด ซึ่งขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะเกิดขึ้น ยังไม่อยากให้มองไปถึงตรงนั้น แต่อยากให้ทำหน้าที่ในเรื่องของการช่วยเหลือประชาชน ในช่วงสถานการณ์นี้ก่อน ซึ่งการพิจารณาเรื่องของแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากร ก็จะเน้นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ส่วนหนึ่งก็จะพิจารณาความเหมาะสม จากการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และทุ่มเทเสียสละ ในขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังอยุ่ระหว่างการร่วมมือกันทำงานอย่างแข็งขันในทุกภาคส่วน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ โดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 และอยากให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานเต็มที่สุดความสามารถ”
ด้าน นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้อธิบายข้อมูลถึงอายุ ไวรัสโควิด-19 ว่ามีอายุนานเท่าไรและหากอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนจะยิ่งทำให้เชื้ออายุยาวนานกว่าปกติ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. หากมีเชื้ออยู่บริเวณพื้น โต๊ะ ลูกบิดประตู จะมีอายุ 7-8 ชั่วโมง 2. หากเชื้อมาในอากาศ ตั้งแต่ น้ำมูก เสมหะ น้ำลาย น้ำตา จะมีอายุ 5 นาที 3. หากมีเชื้อบริเวณโต๊ะพื้นเรียบ จะมีอายุ 24-48 ชั่วโมง 4. หากเชื้ออยู่ในน้ำ จะมีอายุ 4 วัน 5.หากเชื้ออยู่ในตู้เย็นหรือสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส อยู่ได้ 1 เดือน
นอกจากนี้ในงานวิจัยโดยทีมงานจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เกรฟส์วาลด์ (University Medicine Greifswald) ในประเทศเยอรมนี ศ.กุนเทอร์ คัมป์ฟ ได้เคยใช้ใช้ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ต่างๆ (แต่ไม่ได้มีเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019) พบว่าไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวสิ่งของต่างๆ เช่น โลหะ ไม้ กระดาษ แก้ว พลาสติก ได้นานมากที่สุดถึง 9 วัน โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 วัน ขึ้นกับว่าพื้นผิวนั้นมีอุณหภูมิและความชื้นเท่าไหร่ เช่น ถ้าอยู่ในอุณหภูมิที่ค่อนข้างเย็น และมีความชื้นสูง ไวรัสก็จะมีอายุยาวขึ้น
และถึงแม้ไวรัสโคโรน่าพวกนี้จะอยู่บนพื้นผิววัตถุได้นานเป็นสัปดาห์ แต่มันก็จะไม่มีฤทธิ์เดชอะไรถ้าอุณหภูมิเกิน 86 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 30 องศาเซลเซียส แถมมันยังสามารถกำจัดได้โดยง่าย ด้วยการใช้น้ำยาทำความสะอาดภายในบ้านเรือนทั่วๆ ไป เช่น ใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ 62-71% หรือน้ำยาที่ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% หรือน้ำยาที่มีโซเดียมไฮโปคลอไรต์ 0.1% (คือพวกน้ำยาฟอกผ้าขาว) ก็สามารถจัดการเชื้อโคโรน่าไวรัสได้ในเวลาไม่กี่นาที … ซึ่งทั้งหมดนี้ นักวิจัยเค้าคาดหวังว่า มันจะได้ผลเหมือนกันกับเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019”
สำหรับช่วงฤดูร้อนในประเทศไทย (เดือนมีนาคม-เมษายน) โดยปกติดในอากาศ (ช่วงกลางวัน) จะมีอุณหภูมิ ราว 32-34 องศาเซลเซียส หลายฝ่ายจึงมีการตั้งข้อสังเกตุ และคาดการณ์กันว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิ -19 อาจคลี่คลายลงได้ ตามที่ปลัดสธ.ระบุไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่ เฟซบุคแฟนเพจ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น – 在東京タイ王国大使館 ประกาศรณรงค์การป้องกัน ไวรัส COVID-19 โดยอ้างอิงคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าไวรัส COVID-19 ไม่ทนความร้อน และถูกทำลายในอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งไวรัสถูกทำลายได้ด้วยวิธีการประกอบอาหารที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส