ทนาย“รับงานอย่างมั่นใจ”ยัน“ปารีณา”ไม่เจตนารุกป่า ยกคดี“เขาแพง”เทียบเคียง

“ปารีณา” ยัน ขอสู้เต็มที่ ไม่ใช้เส้น รัฐมนตรีในพรรค เป่าคดีให้ “ทนายทศพล” คุย รับงานอย่างมั่นใจ ยกคดี “เขาแพง” ของ “สุเทพ” เทียบเคียง

Advertisement

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความของพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าว ต่อกรณีที่กรมป่าไม้ และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เตรียมฟ้องร้องข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า

โดยทนายความของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตนฉงนในการตีความดังกล่าว แต่เพื่อเตรียมการต่อสู้คดี หาก ส.ป.ก. หรือกรมป่าไม้จะฟ้องร้องคดี ผ่านการสอบถามข้อมูลจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่มีพื้นที่และที่ดินโดยรอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ซึ่งในบางรายพบว่าถูกออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในการหาข้อมูลจากชาวบ้านนั้น เป็นลักษณะของการได้มาซึ่งที่ดิน, การออกโฉนดที่ดิน ซึ่งข้อมูลที่ได้นั้น ตนจะไม่นำไปใช้เป็นตัวประกัน หากเกิดกรณีที่หน่วยงานป่าไม้ฟ้องร้อง น.ส.ปารีณา จริง  ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้น.ส.ปารีณา ระบุว่าได้คืนที่ดินแล้วจึงไม่ผิดนั้น ถือเป็นคนละเรื่องที่ยังต้องรอพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย

“ผมมั่นใจตั้งแต่รับงานสู้คดีนี้ ว่ากรณีของคุณปารีณานั้นไม่มีเจตนาจะบุกรุก  ซึ่งกรณีของคุณปารีณาจะไม่มีปัญหา แต่เพราะชื่อปารีณาจึงมีปัญหาเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในรูปคดีของคุณปารีณานั้นมีลักษณะคล้ายกับกรณีเขาแพง ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งผมได้ปรึกษาทีมทนายที่ทำคดีดังกล่าวไว้ด้วยเช่นกัน” นายทศพล กล่าว

ด้านน.ส.ปารีณา แถลงด้วยว่า ตนยืนยันจะต่อสู้ทุกคดีจนถึงที่สุด พร้อมจะไม่ใช่เส้นสายของรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ บีบให้หน่วยงานรัฐ ไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินคดี อย่างไรก็ตามต่อจากนี้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง จะฟ้องร้องบุคคลที่สร้างความเสียหาย ทั้ง กรณีที่กล่าวหาว่ารุกพื้นที่ป่า เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง ซึ่งตนขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนเมื่อรายงานข่าวกรณีของตนขอให้ระบุชื่อคนให้สัมภาษณ์ด้วยเพื่อที่ตนจะพิจารณาฟ้องร้อง ดำเนินคดี

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

“ที่ผ่านมาดิฉันเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ และถูกกระทำมากกว่าบุคคลอื่น เช่นกรณีที่ส.ป.ก. ระบุให้ออกจากที่ป่า 7 วัน แต่ของชาวบ้านรายอื่น 3 เดือนยังไม่ออก และยังขู่ว่า จะใช้มาตรา 44 เพื่อดำเนินการ ส่วนกรณีที่มีการตรวจสอบว่าดิฉันรุกที่ป่าเพิ่มเติมนั้น ยังไม่เห็นรายละเอียดและข้อเท็จจริง แต่หากจะฟ้องร้องคดี ดิฉันพร้อมจะต่อสู้ทุกคดี

ขณะที่การตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานั้นตนสามารถโต้แย้งได้ เพราะมีสถานะเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ไม่ใช่หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตามตนดีใจที่ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ​ ส่งนายทศพล ฝ่ายกฎหมายช่วยดูแล เนื่องจากตนไม่มีความรู้เรื่องป่าไม้ หรือ ส.ป.ก.ดังนั้นในการต่อสู้คดีดังกล่าว ไม่รู้สึกกังวล” น.ส.ปารีณา กล่าว