เริ่มแล้วจัดการต้นตอธุรกิจอมส่วนต่างสวัสดิการในกองทัพบก ที่เชื่อกันว่าเป็นแรงจูงใจกราดยิงที่โคราช หลัง “ผบ.ทบ.” แถลงทั้งน้ำตา พร้อมขึงขังเตรียมสางทุจริตในกองทัพ เป็นที่มาของคำสั่ง “ย้ายไปช่วยราชการ” ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากโซเชียล “มุกเดิมๆ ระบบราชการ”
จากกรณีเหตุการณ์ทหารคลั่งกราดยิงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบรายในจังหวัดนครราชสีมา และมีการติดตามถึงกรณีทุจริตภายในหน่วยงานต้นสังกัดของคนร้ายท่ามกลางข้อสังเกตุว่าอาจเป็นแรงจูงใจให้ก่อเหตุ โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น ระบุว่าจะจัดการสะสางกับปัญหาการทำธุรกิจส่อทุจริต และมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่เกิดขึ้นภายในกองทัพ โดยผบ.ทบ.มีคำสั่งหลังได้รับรายงานและข้อมูลว่า พ.อ.และ พ.ท.ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริตไม่จ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ(ผู้ปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์)

โดยให้ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ดำเนินการ โดยมีคำสั่งให้ พ.อ.อุทัย แฝงกระโทก หัวหน้ากองกองยุทธยุทธการ (หก.กยก.)มณฑลทหารบกที่ 25 อดีตผู้บังคับกองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 23(ผบ.ร.23 พัน 3) ย้ายมาช่วยราชการที่ กองกิจการพลเรือน(กกร.ทภ.2)กองทัพภาคที่ 2 และ พ.ท.ที เพิ่มพล ผบ.ร.23 พัน 3 ย้ายมาช่วยราชการที่ กองกำลังพลทัพภาคที่ 2 (กกพ.ทภ.2) โดยให้พ.อ.ศิริศักดิ์ บูรณ์เจริญ หัวหน้ากองกองข่าว(หก.กขว.มทบ.25 รักษาราชการแทน หก.กยก.มทบ.25 และให้ พ.ท.พงษ์พัฒน์ เตือนขุนทด หัวหน้าฝ่ายกำลังพล(หน.ฝกพ.) กองพลทหารราบที่ 6 รักษาราชการแทน ผบ.ร.23 พัน 3 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ลงวันที่้ 12 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ผบ.ทบ.ระบุหนักแน่นว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดย ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ ผู้พันถึงนายพลจะไม่มีงานทำหากมีความไม่เหมาะสมและเกี่ยวพันเรื่องทุจริตและไม่แก้ไขปัญหาของผู้ใต้บังคับบัญชา

โดยจากคำสั่งย้ายดังกล่าว กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล เกี่ยวกับคำสั่งย้าย โดยหลายคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ไปถึงท่าทีที่จริงจังของผบ.ทบ.และทางหน่วยงานตรวจสอบการทุจริตหลังเกิดเหตุรุนแรงที่จังหวัดนครราชสีมา และตั้งข้อสังเกตุว่าการทุจริตภายในกองทัพ คือสาเหตุสำคัญของเหตุที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีการสะสางแล้วสุดท้ายก็เป็นเพียงคำสั่งย้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจสร้างความไม่เชื่อมั่น เพราะที่ผ่านมาระบบราชการไทยก็จะมีแต่การย้าย และหลายคอมเมนต์ยังมองต่อไปอีกว่า การสั่งย้ายเมื่อเกิดเหตุทุจริตในระบบราชการไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา