มาแล้ว พายุ “ปาบึก” ทะเลอ่าวไทยคลื่นลมแรง ฝนตกหนักหลายพื้นที่ เมืองคอนฯเร่งอพยพชาวบ้านนับพันเข้าที่ปลอดภัย กรมอุตุฯ เตือน 11 จังหวัดใต้-คลื่นสูง 3-5 เมตร น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ด้าน “บิ๊กป้อม” สั่งทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมรับมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม./ชม. มีระยะห่างจาก จ.นราธิวาส ประมาณ 310 กม. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยภายในวันที่ 3 ม.ค.นี้
ขณะที่สถานการณ์ที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี มีฝนตกลงมาอย่างหนักแล้ว ส่วนบรรยากาศทั่วไปท้องฟ้าทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราช มืดครึ้มฝนตกตลอดเวลาหนักบ้างเบาบ้างหลายอำเภอ ขณะที่คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยเริ่มมีคลื่นลมแรงขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลาและน้ำทะเลเริ่มมีสีขุ่น ซึ่งจนท.เริ่มเฝ้าระวังตลอดเวลา
ขณะที่ อำเภอสิชล เจ้าหน้าที่ ปภ. ทหาร และส่วนท้องถิ่น ได้เริ่มอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ต่างๆที่บ้านพักอยู่ติดริมทะเลอ่าวไทย รวมจำนวนกว่า600ครัวเรือน2000คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง คนชรา ไปพักยังศูนย์พักพิงผู้อพยพตามจุดต่างๆที่ปลอดภัยแล้วอย่างชุลมุนตลอดทั้งวัน โดยโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ อ.สิชลปิดหมด โดยยังคงเหลือชาวบ้านที่เป็นคนหนุ่มคอยเฝ้าหมู่บ้านจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และให้คอยเฝ้าระวังพายุตลอดเวลา
ในขณะที่ ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ติดอยู่ริมทะเลอ่าวไทย ทางอำเภอและจนท.ท้องถิ่นและมูลนิธิต่างๆเร่งอพยพชาวบ้าน2000คนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ที่โรงเรียนท่านครญาณวโรภาส แล้วเช่นกัน
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง โดยมีศูนย์กลางห่างประมาณ 550 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่ละติจูด 6.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันนี้ (3 มกราคม 2562) และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยมีผลกระทบดังนี้
ในวันที่ 3 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือตั้งแต่วันที่ 3-5 มกราคม 2562
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ เฝ้าติดตามสภาพอากาศ และเตรียมพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่พัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ของไทยในระหว่างวันที่ 3-5 มกราคมนี้ ซึ่งคาดว่า จะเกิดคลื่นลมรุนแรง ฝนตกหนักมากและน้ำท่วมฉับพลัน เกิดความเสียหายกระทบประชาชนเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ โดยกำชับให้ทุกเหล่าทัพเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือช่าง รวมทั้งชุดแพทย์สนามและสถาปนาระบบสื่อสารสำรองในพื้นที่ให้พร้อม ให้ประสานกับฝ่ายปกครองให้การช่วยเหลือเร่งด่วนอพยพประชาชนจากพื้นที่อันตรายที่อาจได้รับผลกระทบรุนแรงไปยังพื้นที่ปลอดภัย และวางแผนกระจายกำลังจากหน่วยทหารในพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือเร่งด่วนขั้นต้นแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ให้ทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ให้กองเรือเตรียมการเป็นฐานช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวริมชายฝั่งทะเล ให้เตรียมพร้อมอากาศยาน สำหรับการลำเลียงสิ่งของยังชีพจากส่วนกลาง สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่