ตามคาด “ภราดร – กรวีร์ ปริศนานันทกุล” อดีต ส.ส.อ่างทอง สมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แจงย้ายพรรคหวั่นปมพ่อถูกตัดสิทธิ์ กระทบพรรคเดิม ชูอุดมการณ์ถท. ตรงกับความรู้สึก
นายภราดร และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคให้การต้อนรับ โดยนายภราดรเตรียมลงสมัคร ส.ส.อ่างทอง ขณะที่ นายกรวีร์ จะลงสมัครระบบปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องจาก จ.อ่างทอง เหลือเขตเลือกตั้งเพียงเขตเดียว
นายอนุทิน กล่าวว่า ดีใจที่ได้คนมีความสามารถ มีคุณภาพเข้ามาร่วมงาน ถือเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรค เหมือนฝันเป็นจริง ที่ได้ทั้ง 2 คนมาร่วมงาน ที่ผ่านมา รู้จักทั้ง 2 คนมาก่อนหน้านี้ รู้ว่ามีความสามารถ และต้องการให้เข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย
“ผมโทรชักชวนเพียง 15 นาที ทั้ง 2 คน ก็ตอบรับเข้าร่วมงานกับพรรค และคาดหวังว่า หลังจากที่ได้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน พรรคจะมีคุณภาพ เชื่อว่า จะทำให้พรรคเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ไม่ใช่พรรคการเมืองอย่างที่หลายคนกล่าวว่า เป็นพรรคของคนนั้น คนนี้ หลังจากนี้ ขอฝากพรรคไว้กับคนรุ่นใหม่ อีกไม่เกิน 2 สมัย ก็จะวางมือจากงานการเมือง จึงต้องมีการเปลี่ยนผ่าน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่มีคนมีร่วมงานกับพรรคจำนวนมากเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะตน แต่เป็นเพราะพรรค ที่ผ่านมาไม่เคยพูดกับผู้ที่มาร่วมงานกับพรรค ว่าจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน แต่ชักชวนมาทำงานให้กับบ้านเมือง เป็นได้ทุกบทบาท และเป้าหมายแรกคือ ต้องเป็นผู้แทนของประชาชนให้ได้ก่อน นอกจากนี้ พรรคเปิดกว้างให้คนที่มีความมุ่งมั่นเข้ามาทำงานร่วมกับพรรค ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะมี ส.ส.กี่ที่นั่ง แต่จะทำให้ดีที่สุด และยอมรับผลที่เกิดขึ้น ไม่ต้องการกดดันตัวเอง
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยเคยตั้งเป้าว่า สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ตามหลักการแล้ว ต้องสนับสนุนคนที่ชนะการเลือกตั้ง ไม่สนับสนุนสิ่งที่นอกเหนือรัฐธรรมนูญ หรือเปิดช่องให้มีคนนอกเข้ามา ทุกอย่างต้องอยู่ในระบบรัฐสภา
ด้านนายภราดร กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ขอบคุณพรรคชาติไทยพัฒนาที่ได้สั่งสอนสิ่งต่างๆ ให้กับตนมานานกว่า 10 ปี ถือเป็นบุญคุณอย่างยิ่ง ยืนยันว่านักการเมืองทุกคน ไม่ต้องการอยากย้ายพรรค แต่เหตุผลจำเป็นที่ต้องเดินออกมา เพราะนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ผู้เป็นบิดา วางมือจากพรรคชาติไทยพัฒนา เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในคดีร่ำรวยผิดปกติ หากมาเกี่ยวข้องกับพรรค ก็อาจทำให้พรรคถูกยุบได้ตามกฎหมาย ดังนั้นเพื่อรักษาพรรคไว้ ตนในฐานะลูก ก็เข้าใจเหตุผลของบิดา และจำเป็นต้องย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย
ส่วนนายกรวีร์ กล่าวว่า การตัดสินใจในการย้ายพรรค เนื่องจากนโยบายและแนวทางการทำงาน รวมทั้ง อุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ตรงกับความรู้สึกของตัวเอง จึงต้องการเข้ามาเพื่อช่วยทำงาน ให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง
ทั้งนี้ นายภราดร และนายกรวีร์ เป็นบุตรชายของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายภราดร และนายกรวีร์ถือเป็นอดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนาคนที่ 5 และ 6 ที่ย้ายมาเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านี้มี นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และนายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ขณะที่ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ก่อนหน้านี้ได้ย้ายไปพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะย้ายเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง ขณะนี้ มีอดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนาย้ายมาแล้วรวม 7 คน