กรมบัญชีกลางอัพเดต รัฐแจกเงินช่วยคนจนแล้ว 4.2 หมื่นล้านบาท เผยคลังปิ๊งไอเดีย ขยายสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ อุ้มกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กว่า 1 แสนราย ชดเชยค่าน้ำมันหรือให้สิทธิซื้อน้ำมันราคาถูก หลังราคาน้ำมันแพง
นางญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมกำลังเตรียมพร้อมในการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.1 ล้านราย โดยในเดือนตุลาคมจะเริ่มใช้การสแกนใบหน้า Application face scan เพื่อให้ผู้มีสิทธิใช้ชำระเงินแทนรูปแบบเดิม
ในส่วนของการวางเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ทำไปแล้ว 35,359 เครื่อง และมียอดการใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560-27 กันยายน 2561 รวม 42,440 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านธงฟ้าประชารัฐ 41,318 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 59.5 ล้านบาท รถ บขส. 111.7 ล้านบาท รถไฟ 217.6 ล้านบาท
ขณะที่ การใช้บริการรถไฟฟ้า ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2561 มียอดการใช้สิทธิแล้ว 8.7 ล้านบาท และเงินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต ได้มีการโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) แล้วจำนวน 724.6 ล้านบาท
ด้านการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพจากกองทุนผู้สูงอายุสำหรับภาษีสรรพสามิตและสุรายาสูบ โดยโอนเข้า e-Money ให้กับผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามสิทธิที่ได้รับ เดือนละ 50 บาท และ 100 บาท เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อให้ผู้มีสิทธิ สามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ และยังได้พัฒนารูปแบบการชำระเงินให้สามารถชำระเงินผ่านทาง Moblie Application ถุงเงิน โดยมีร้านค้าที่ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงินแล้ว 7,837 ร้านค้า เป็นเงิน 140.85 ล้านบาท
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติม ว่า กระทรวงการคลังมีแผนที่จะขยายสิทธิการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่า 1 แสนคน โดยมอบให้กระทรวงพลังงานทำการสำรวจข้อมูล เพื่อหาแนวทางช่วยกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือมอเตอร์ไซค์วิน ที่ถือบัตรสวัสดิการ ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากน้ำมันแพง เช่น อาจชดเชยราคาน้ำมันให้ หรือให้ซื้อน้ำมันในราคาถูกกว่าปกติ โดยกระทรวงพลังงานกำลังตรวจเช็กข้อมูลกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อสรุปมาตรการที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร
