สานสัมพันธ์ 2ฝั่งโขง..ไทย-ลาว MOU.ดิจิทัล

กระทรวงดิจิทัลฯ จับมือ กระทรวงกิจการไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร สปป.ลาว ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล เชื่อมโยงการทำงานร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของ 2 ประเทศ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

Advertisement
​ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

​ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 16 (ASEAN TELMIN 16) เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีร่วมกับ H.E. Mr.Thansamay Kommasith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน ดาลุสซาลาม โดยฝ่าย สปป.ลาว ได้เสนอให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจด้านไอซีทีร่วมกับประเทศไทย จึงได้มีการพิจารณาการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจร่วมกัน จนเกิดการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย กับ กระทรวงกิจการไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขึ้นในครั้งนี้

Mr.Thansamay Kommasith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)

กรอบความร่วมมือดังกล่าว ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาการทำงานร่วมกันในด้านต่างๆ อาทิ ด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านรัฐบาลดิจิทัล ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีและดิจิทัล ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) และการบริการที่เกี่ยวข้อง ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านบรอดแบนด์ และการพัฒนาการให้บริการ ด้านนวัตกรรมไอซีทีและเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Big Data, Internet of Things (IoT) และ Cloud Computing ด้านโอกาสทางเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การรู้เท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลส่งเสริมโอกาสและศักยภาพของประชาชน (Digital Inclusion) และการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ด้านการวิจัยพัฒนา และนวัตกรรมในด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ รวมถึงความร่วมมือและความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่วิสาหกิจเพื่อสร้างความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนสาขาอื่นๆ เป็นต้น

​โดยในส่วนของรูปแบบการดำเนินงานในความร่วมมือของบันทึกความเข้าใจฯ ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความสำเร็จ ความก้าวหน้า และแผนการพัฒนาในด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล การแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือน การประชุมหารือ การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้อง การดำเนินโครงการความร่วมมือ (Joint Projects) ในด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล การอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจ Startup ในด้านไอซีทีและเทคโนโลยีดิจิทัล การจัดนิทรรศการ โครงการฝึกอบรม การประชุมเชิงปฏิบัติการและสัมมนา และรูปแบบความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ประเทศไทยกับ สปป.ลาว มีความร่วมมือด้าน ICT สำคัญๆ ในหลายด้าน อาทิ โครงการทางด่วนสารสนเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำโครงข่ายไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้แก่ การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ICT (Digital Divide) การรักษาความปลอดภัยในระบบ ICT (Cyber Security) การศึกษา และการพัฒนาบุคลากร เป็นต้น ด้านการพัฒนา Digital Tech Startup ในเรื่องของ International Digital Tech Startup โดยทั้ง 2 ฝ่าย ได้ร่วมกันพัฒนา Solution & Platform ด้านการท่องเที่ยว และระบบการขนส่ง (Logistic) โดยมีแนวทางส่งเสริมให้กลุ่ม Startup ไทย และ สปป.ลาว ร่วมกันพัฒนา Application เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค เป็นการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาภูมิภาค CLMV

สำหรับความร่วมมือด้านวิชาการ ICT ที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลฯ และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดทำความร่วมมือทางวิชาการภายใต้โครงการฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือไทย-ลาว โดยได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของ สปป.ลาว เพื่อพัฒนาความรู้และเพิ่มทักษะด้านอินเทอร์เน็ต การออกแบบและการพัฒนาเว็บไซต์ โดยใช้เครื่องมือ Content Management ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ได้แก่ หลักสูตร Advanced Internet and Web Application หลักสูตร Introduction to Basic Information Technology World Wide Web การอบรม/ดูงาน หลักสูตร International Computer หลักสูตรการฝึกอบรมเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Window 7 โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processing) โปรแกรมจัดการตาราง (Spread Sheet) โปรแกรมการนำเสนอ (Presentation) การจัดทำเว็บไซต์ (Joomla) และการใช้ประโยชน์จากสังคมออนไลน์ เป็นต้น

นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือในหลายประเด็น ถึงความเป็นไปได้ในการสร้างความร่วมมือกันในอนาคต อาทิ ความร่วมมือเรื่องอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet) ซึ่ง สปป.ลาว มีความสนใจที่จะดำเนินความร่วมมือกับไทยอย่างยิ่ง โดยปัจจุบัน สปป.ลาว มีความพยายามจะปรับลักษณะภูมิประเทศจาก Land Lock เป็น Land Link รวมทั้งมีความประสงค์ศึกษาดูงานเรื่อง Content และศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนของไทย ซึ่งเห็นว่าเป็นการให้โอกาสทางการศึกษาและลดความยากจนของประเทศ โดย สปป.ลาว มีการจัดตั้งศูนย์ ICT ชุมชนเช่นกัน ภายใต้การดูแลของรัฐบาล นโยบาย 3 แคว้นยุทธศาสตร์เมืองเข้มแข็ง ซึ่งเป็นการทดลองพัฒนาในแต่ละด้าน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน
​ทั้งนี้ ความร่วมมือกันภายใต้ MOU ฉบับนี้ จะเกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุน การแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ด้านเทคนิค การขยายตลาด การพัฒนาทรัพยากร รวมถึงการยกระดับด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ตลอดจนจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย กับ สปป.ลาว อีกด้วย