กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด ย้ำน้ำท่วมเกิดจากฝนหนัก ไม่ใช่น้ำที่ระบายออกมาจากอ่างเก็บน้ำ
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ช่วยราชการในตำแหน่ง อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ ฝนตกหนักส่งผลให้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี เพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเพชรจนถึงปากแม่น้ำเพชรบุรีตั้งแต่ อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมือง และอ.บ้านแหลม ได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งทั้งสองฝั่ง รวมไปถึงมีน้ำท่วมเส้นทางสัญจรบริเวณถนนเพชรเกษม ถนนดำเนินเกษม ถนนคีรีรัฐยา ถนนบันไดอิฐ ถนนดำรงค์รักษ์ ถนนพาณิชเจริญ ถนนมาตยวงศ์ ถนน 18 เมตร และถนนหน้าวัดใหญ่ ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 5 – 25 เซนติเมตร
กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบุรี 12 เครื่อง อำเภอบ้านแหลม 6 เครื่อง รวมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีรวมทั้งสิ้น 34 เครื่อง และคลองสาขาต่างๆในเขตอำเภอบ้านแหลมอีก 6 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรืออีก 22 ลำ
ติดตั้งในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแนวกระสอบทราย และใช้รถแบ็คโฮเสริมคันดินบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี มีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่าปริมาณน้ำจะลดลงสู่ภาวะปกติภายใน 3 – 4 วันนี้
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำท่วมเพชรบุรี เกิดจากฝนตกหนักทางตอนบนของลำน้ำห้วยแม่ประจันต์ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำเพชรบุรี ทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีเป็นจำนวนมาก ไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์แต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณน้ำเต็มความจุที่ระดับเก็บกัก แต่ได้มีการระบายน้ำ เพียงวันละ 4.50 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น กรมชลประทาน ได้ใช้เขื่อนเพชรในการบริหารจัดการน้ำ ด้วยการหน่วงน้ำส่วนหนึ่งไว้บริเวณเหนือเขื่อน และควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางตอนล่างมากนัก พร้อมกับเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุดต่อไปแล้ว
ภาพจาก https://www.facebook.com/191phetchaburi และ https://www.facebook.com/RescueThailandClub