“อนุทิน”ร่วมงานครบรอบ 45 ปีการสถาปนาการประปาส่วนภูมิภาค

มท.1 มอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณของการประปาส่วนภูมิภาค เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปีการสถาปนา กปภ. ชื่นชมเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากร เน้นสร้างผลงานเชิงประจักษ์ พร้อมเป็นกำลังใจให้ทำหน้าที่สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประปาวิวัฒน์ สำนักงานใหญ่ การประปาส่วนภูมิภาค นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาการประปาส่วนภูมิภาคครบ 45 ปี โดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส ประธานคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค นายจักรพงศ์ คำจันทร์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 2) รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค คณะผู้บริหาร กปภ. และพนักงาน ร่วมในพิธี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงานและบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นในวันนี้ เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า “การประปาส่วนภูมิภาค” เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรและให้คุณค่ากับความพยายาม ในการสร้างผลงาน ซึ่ง “หน่วยงานและบุคลากร” ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ทุ่มเทเสียสละ ยึดมั่นในหลักคุณธรรมจริยธรรม ยึดถือประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้งนั้น ถือได้ว่ามีคุณค่าอย่างยิ่ง ในฐานะที่เป็นผู้มีส่วนในการดูแลประชาชน และขับเคลื่อนองค์กร สังคมและประเทศชาติ ให้เดินหน้าต่ออย่างมั่นคง
“ขอแสดงความยินดีกับหน่วยงานและพนักงานการประปาส่วนภูมิภาค ที่ได้รับรางวัลและประกาศเกียรติคุณในวันนี้ ที่ถือว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเองและองค์กร เป็นความภาคภูมิใจของ กปภ.
วันนี้ทุกท่านถือเป็น “คนต้นแบบ” ที่จะต้องรักษาคุณงามความดี ความวิริยะอุตสาหะ เป็นแบบอย่างที่น่ายกย่องของสังคมสืบไป ในขณะเดียวกัน ผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา ก็จะต้องตระหนักถึงคุณค่า และพัฒนาบุคลากรในองค์กร ให้เกิดแรงบันดาลใจ ทักษะ และมีโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไปเช่นกัน และขอให้บุคลากร กปภ. ทุกคน มีกำลังใจในการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาองค์กร เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป” นายอนุทิน กล่าว