วันที่ 7สิงหาคม..”วันรพี”เป็นอีกวันแห่งประวัติศาสตร์ เป็นคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์)บิดาแห่งกฎหมายไทย ผู้วางรากฐานระบบนิติศาสตร์ในสยามประเทศ แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากนี้แล้วท่านยังเป็นผู้ที่ทำให้ สยามประเทศมีรถพระที่นั่งเป็นครั้งแรกอีกด้วย

Advertisement

” ในปี พ.ศ.2444 พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์) ทรงประชวรต้องเสด็จฯ ไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ขณะประทับรักษาพระองค์ ณ ที่นั่น ได้ทรงสั่งซื้อรถยนต์คันหนึ่งเป็นรถเดมเลอร์เบนซ์ (สีเหลือง) ซึ่งถือเป็นรถชั้นเยี่ยมที่สุดขณะนั้น ทรงซื้อรถคันดังกล่าวจากมองซิเออร์ เอมีเล เจลลีเนค (Emil Jellinek) ผู้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเดมเลอร์เบนซ์ในประเทศฝรั่งเศส ต่อมาภายหลังรถยนต์เดมเลอร์เบนซ์ก็เปลี่ยนชื่อเป็น รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เลื่องลือไปทั่วโลก (ตามชื่อ Mercedes Jellinek บุตรสาว)

เมื่อพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์เสด็จฯ กลับประเทศไทย ในปลายปี พ.ศ.2444 ได้น้อมเกล้าฯ ถวายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกคันหนึ่ง (สีแดง) แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งนับได้ว่าเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ทรงรับหน้าที่เป็นสารถี

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดปรานรถยนต์พระที่นั่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาก เพราะทรงเห็นว่าสะดวกสบาย และเดินทางได้รวดเร็วกว่ารถม้าพระที่นั่ง ได้พระราชทานนามรถยนต์พระที่นั่งคันแรกนี้ว่า “แก้วจักรพรรดิ์” รถยนต์พระที่นั่งนี้เป็นรถเมอร์เซเดส ขนาด 28-32 แรงม้า รุ่นปี ค.ศ.1905 ความเร็ว 46 ไมล์ต่อชั่วโมง

ในปี พ.ศ.2451 วาระเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 56 พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริที่จะสั่งซื้อรถยนต์ มาเป็นของขวัญพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการชั้นสูง เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์แก่แผ่นดินสืบไป ในการนี้ทรงโปรดเกล้าให้ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ สั่งซื้อจากประเทศฝรั่งเศส จำนวน 10 คัน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามแก่รถยนต์เหล่านี้แต่ละคัน ในลักษณะเดียวกับที่พระราชทานนามแก่ช้าง เพื่อแสดงถึงฐานะและความมั่งมี เช่น แก้วจักรพรรดิ์ มณีรัตนา ทัดมารุต ไอยราพต กังหัน ราชอนุยันต์ สละสลวย กระสวยทอง ลำลองทัพ พรายพยนต์ กลกำบัง สุวรรณมุขี…”

ที่มา : วารสารวิมานเมฆ ปีที่ 4 ฉบับที่ 22 เดือนธันวาคม พ.ศ.2543-มกราคม พ.ศ.2544 คอลัมน์ รั้วรอบขอบวัง โดย ชวนชม แรกมีในสยามตอนที่ 1 MOTORCAR

ปล. เราเรียกวันที่ 7 สิงหาคม อันเป็นคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ทุกปีว่า “วันรพี”