มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณ เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี แห่งการดำเนินโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม”

มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณ เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี แห่งการดำเนินโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม” หนึ่งในโครงการเพื่อสังคมด้านการส่งเสริมความดี ซึ่งเป็นรากฐานและพลังขับเคลื่อนสำคัญของการสร้างสังคมคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของคนดีที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจของการทำ ความดีให้แก่คนในสังคมไทยในทุกระดับ มาตั้งแต่ปี 2550

Advertisement

ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการ SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนและส่งเสริมให้สังคมมีคนดีที่มุ่งทำความดีในหลากหลายมิติ ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรภาคสังคมในสาขาต่างๆ ได้แก่ สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ,มูลนิธิศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย,สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน,มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข,สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย,มูลนิธิดวงประทีป และมูลนิธิวิมุตตยาลัย

พร้อมทั้งส่งเสริมให้ 7 องค์กรเพื่อสังคม ได้คัดเลือกผู้ทำความดีเพื่อมอบทุนทรัพย์และประกาศเกียรติคุณ ก่อให้เกิดเป็นรางวัลผู้ทำความดีเพื่อสังคม 7 รางวัล ใน 7 สาขา มีผู้ทำความดีที่ได้รับยกย่องเชิดชูแล้วตั้งแต่ ปี 2550-2559 รวม 78 ราย รางวัลศาสตราจารย์คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต สาขา การพัฒนาห้องสมุด 16 ราย, รางวัลศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย สาขาการพัฒนาการศึกษา 10 ราย,รางวัลมีชัย วีระไวทยะ สาขาพัฒนาสังคมชนบท 12 ราย,รางวัลสุกรี เจริญสุข สาขาส่งเสริมดนตรี 10 ราย,รางวัลพลตรีสำเริง ไชยยงค์ สาขาส่งเสริมกีฬา 13 ราย,รางวัลประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนและสังคม 8 ราย,รางวัลอิสรเมธี สาขาการพัฒนาสังคมเมือง 9 ราย รวมทั้งหมด 78 ราย

ดร.ชัยวัฒน์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า เพื่อเผยแพร่การทำงานเพื่อสังคมของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ และ 7 องค์กรเพื่อสังคม ด้านการส่งเสริมการทำความดีในสังคมในสาขาต่าง ๆ เพื่อประกาศเกียรติคุณผู้ทำความดีเพื่อสังคมใน 7 สาขา เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ และเป็นแรงผลักดันในการทำงานเพื่อสังคมต่อไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลงานความดีของผู้ทำความดี ตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบันนี้ต่อสาธารณชน เพื่อขยายผลของการทำความดีไปสู่สังคมในวงกว้าง

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินโครงการ SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งปณิธานที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งความดี โดยขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับ 7 องค์กรภาคีเครือข่ายและต่อขยายความดีผ่านพลเมืองดีที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของทรัพยากรมนุษย์ในทุกๆมิติที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาความยั่งยืนให้กับสังคมไทย บนเครือข่ายความคิดของคนยุคปัจจุบัน บนเครือข่ายขององค์กรที่จะกระจายตัวอย่างไม่หยุดยั้งและพร้อมเดินหน้าร่วมสร้างปรากฎการณ์บนความหวังที่ไม่มีสิ้นสุด เพื่อให้กาลเวลาพิสูจน์คนและส่งเสริมคนให้พิสูจน์ความดี”

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลในโครงการ SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม ประจำปี 2559 ประกอบด้วย
1. รางวัลศาสตราจารย์คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต สาขาการพัฒนาห้องสมุด
– ผู้ทำความดี มูลนิธิศาสตราจารย์ ดร.ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์ ผลงานสำคัญ องค์กรเพื่อสังคมที่ก่อตั้งขึ้น ตั้งแต่ปี 2553 มุ่งทำงานต่อเนื่องนับ 25 ปี เพื่อผลักดันการส่งเสริมการอ่าน การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง และผลิตหนังสือที่มีคุณภาพ โดยสนับสนุนการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ และสถานศึกษาต่างๆ ที่ทำงานผลักดันการส่งเสริมการอ่านแก่ชุมชน และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
– ผู้ทำความดี นางดวงตา จิตตะกาญน์ ครูโรงเรียนอนุบาลคลองท่อม จ.กระบี่ ผู้สละแรงกาย เวลา และทุนทรัพย์ส่วนตัวทำงานกว่า 37 ปี ด้วยแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ ทั้งกาย วาจา และจิตใจ ได้รับการคัดเลือกเป็นครูต้นแบบ ในด้านต่างๆ สร้างโรงเรียนแกนนำการอ่าน ส่งเสริมการอ่านให้กับโรงเรียนเครือข่าย ชุมชน วัด ค่ายทหาร และสถานที่ท่องเที่ยว สร้างทีมยุวบรรณารักษ์ที่มีภาวะผู้นำและส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจทำงานเพื่อส่งเสริมการอ่านทั้งในโรงเรียนและขยายผลไปยังชุมชน ส่งผลให้แก่ทีมยุวบรรณารักษ์ได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทาน ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีในการสร้างยุวทูตการอ่าน และ ยุวบรรณารักษ์รุ่นใหม่ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ต่อไป
2. รางวัลศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย สาขาการพัฒนาการศึกษา
– ผู้ทำความดี ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ อธิการบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ผลงานสำคัญ เภสัชการชาวไทยที่อุทิศตนวิจัยค้นคว้าจนผลิตยารักษาโรคเอดส์ ได้เป็นครั้งแรกในประเทศกำลังพัฒนา มีผลงานที่เป็นสนใจในวงกว้าง ได้แก่ รางวัลนักวิทยาศาสตร์โลก Golbal Scientist Award จากมูลนิธิเลตเต็น ประเทศนอร์เวย์ ประจำปี 2547, รางวัลบุคคลแห่งปีของเอเชีย ประจำปี 2551,รางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณประจำปี 2552,เป็นผู้ก่อตั้ง ลังกาสุกะโมเดล พ.ศ. 2552 เครือข่ายผลิตยาสมุนไพร และสุขภาพของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ขับเคลื่อนโดยมีประชาชนในท้องถิ่นเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านสาธารณสุขของชุมชน Community Health
3. รางวัลมีชัย วีระไวทยะ สาขาการพัฒนาสังคมชนบท
– ผู้ทำความดี วิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการเกษตรร้านค้าชุนชน ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ผลงานสำคัญ ศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชนเข้มแข็ง มีการวางรูปแบบการบริหารอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้สารเคมี เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในชุมชน ปลูกฝังแนวคิดความพอเพียง ลด ละ เลิก อบายมุข และการออม ทำให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากการมีรายได้ทั้ง จากการเกษตรและการผลิตสินค้ามาจำหน่ายที่ร้านค้าชุมชน เพิ่มรายได้ให้เกิดเศรษฐิจหมุนเวียนในชุมชน ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชน มีหุ้นทั้งหมด 49,875 หุ้น มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท สมาชิก 600 คน มีการวางรูปแบบการบริหารอย่างเป็นระบบ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดู งานด้านการจัดการร้านค้าชุมชน การบริหารจัดการเงินทุนในชุมชน ซึ่งมีหน่วยงานราชการองค์กรท้องถิ่น และองค์กรชุมชน ศึกษาดูงานปีละกว่า 5,000 คน
4. รางวัลอิสรเมธี สาขาการพัฒนาสังคมเมือง
– ผู้ทำความดี นายคำใหม่ แสงรัตน์ ปราชญ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน ผลงานสำคัญ ผู้ถ่ายทอดภูมิปัญญาโครงการไส้เดือนเพื่อนรัก ซึ่งจะช่วยย่อยสลายขยะอินทรีย์ และได้ปุ๋ยมูลไส้เดือน ซึ่งมีธาตุอุดมสมบูรณ์ใช้แทนปุ๋ยเคมี ในวงกว้างแก่เกษตรกรนักเรียนโรงเรียนชาวนา ในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดต่างๆ ทั่วภาคเหนือ ผลักดันให้เชียงรายเป็นจังหวัดของเกษตรอินทรีย์
– ผู้ทำความดี นายเชาวฤทธ์ ไชยพรม ปราชญ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน ผลงาน ผู้ถ่ายทอดความรู้และแนวความคิดการเป็นเกษตรกรที่มีความรับผิดชอบต่อชีวิตของคนในชุมชน ซึ่งต้องมีอาหารดี ปลอดภัย ด้วยโครงการปลูกเห็ดในโรงเรือน เป็นแหล่งเรียนรู้ผลักดันการสร้างเกษตรกรที่ดี สร้างครอบครัวและชุมชนอินทรีย์ ผลักดันให้เชียงรายเป็นจังหวัดของเกษตรอินทรีย์
5. รางวัลสุกรี เจริญสุข สาขาการส่งเสริมดนตรี
– ผู้ทำความดี วงออร์เคสร้า เทศบาลนครยะลา ผลงานสำคัญ วงดนตรีออร์เคสตร้าเยาวชน ศูนย์รวมและพื้นที่ของโอกาสให้ เยาวชนที่ด้อยโอกาสและมีฐานะยากจน มีความแตกต่างทั้งอายุ ศาสนา วัฒนธรรม ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าถึงการเล่นดนตรีอย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไปในสังคม ได้อยู่และเรียนรู้ดนตรีร่วมกัน ทำกิจกรรมเพื่อดูแลสังคมร่วมกัน นำไปสู่ความสมานฉันท์ในพื้นที่มีความวุ่นวายไม่สงบและปลอดภัยได้ โดยใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือเชื่อมความสัมพันธ์และสานสัมพันธ์ด้วยจิตและวิญญาณ วงออร์เคสตร้า เทศบาลนครยะลา เปิดโอกาสให้เยาวชนที่ไม่มีความรู้ทางด้านดนตรี ตั้งแต่อายุ 7-15 ปี เริ่มเรียนตั้งแต่การอ่านโน้ตดนตรีสากล จนสามารถจัดแสดงคอนเสิร์ตได้ และยังเป็นวงออร์เคสตร้าเยาวชนที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย โดยเยาวชนจะได้รับประสบการณ์จากการเดินทางไปแสดงในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
6. รางวัลพลตรีสำเริง ไชยยงค์ สาขาการส่งเสริมกีฬา ฃ
– ผู้ทำความดี นายเจต บุญเป็ง ผลงานสำคัญ อาสาสมัครผู้รับผิดชอบเยาวชนในโครงการ เก่อญอโพ ก้าวสู่ความไพบูลย์ ณ โรงเรียนบ้านบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ค้นหาเด็กๆ เก่อญอโพ (กะเหรี่ยง) ตามหมู่บ้าน ตามขุนเขา เพื่อนำมาสอนเรื่องจริยธรรม โดยใช้กีฬาและดนตรีเป็นสื่อและเปิดบ้านให้การเลี้ยงดูและทุ่มเทดูแลฝึกสอนฟุตบอลให้กับทีม กระทั่งมีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนเป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าแข่งขันและรับรางวัลชนะเลิศโรงเรียนระดับตำบล อำเภอ รวมทั้งได้รับการคัดเลือกเป็นนักฟุตบอลจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
– ผู้ทำความดี นายสนธยา งามแยะ ผลงาน จิตอาสาสอนฟุตบอลเด็กในชุมชน และเด็กด้อยโอกาส ซึ่งขาดทักษะในการเล่นกีฬาฟุตบอล โดยนำเด็กและเยาวชนยากจนในชุมชนใกล้เคียงในอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มาอาศัยที่บ้านและฝึกสอนการเล่นกีฬาฟุตบอลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลเด็กๆ มาเป็นเวลานานนับ 10 ปี ควบคู่กับการเป็นผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนสุรินทร์ ก่อตั้งทีมชมรมฟุตบอลเมืองช้างเอฟซี เพื่อส่งเสริมให้กีฬาฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการสร้างเยาวชนคุณภาพ ห่างไกลยาเสพติด และสามารถเป็นอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครัวครัวได้
7. รางวัลประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนและสังคม
– ทำความดี นางนิตยา พร้อมพอชื่นบุญ ผลงาน ประทานธรรมการมูลนิธิพร้อมใจพัฒนา ผู้ทุ่มเทอุทิศตนทำงานเพื่อการลดปัญหายาเสพติดในชุมชนคลองเตย และทำงานร่วมกับเครือข่ายชุมชนแออัดว่า 30 ปี มีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนในชุมชน โดยริเริ่มโครงการต่างๆ อาทิ โครงการส่งเสริมเขตปลดยาเสพติด โครงการป้องกันโรคเอดส์มูลนิธิดวงประทีป และจัดตั้งสมาคมอาสาสมัครต่อต้านยาเสพติดคลอเตย สร้างแนวร่วมชุมชนอาสาสมัครป้องกันยาเสพติดที่เข้มแข็งใน 18 ชุมชน กว่า 360 คน
– ผู้ทำความดี นายดำรงค์ บุญยัง ผลงานสำคัญ หัวหน้าโครงการป้องกันและควบคุมอัคคีภัย มูลนิธิดวงประทีม ประธานเครือข่ายบรรเทาสาธารณภัยชุมชนในกรุงเทพมหานคร และผู้นำเครือข่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันอัคคีภัยแห่งประเทศไทย เจาะกลุ่มชักชวนเยาวชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนเข้าเป็นอาสาสมัครเพื่อทำหน้าที่ป้องกันภัย เฝ้าระวังเหตุไฟไหม้ ซึ่งการทำงานได้หล่อหลอมพฤติกกรรมทำความดีเพื่อเอาชนะยาเสพติดแก่กลุ่มเสี่ยง และยังเป็นต้นแบบขยายผลไปในชุมชนอื่นๆ