บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ ไอแอม ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “การถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมการบริหาร” ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (มทร.รัตนโกสินทร์) ณ โรงแรม โกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ
นายธงรบ ด่านอำไพ ผู้จัดการบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัดเปิดเผยว่า ไอแอม ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “การถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมการบริหาร” ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการจัดการและเทคโนโลยีดิจิตอล
ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนพัฒนาขีดความสามารถและเชื่อมโยงกิจกรรมด้านการพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมการบริหาร ของทั้งสองฝ่ายให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนต่อไปในอนาคต
พัฒนาความร่วมมือด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่าง บริษัท บริหารสินทรัพย์ กับ วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ผู้ประกอบการ บุคลากร และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาให้เข้มแข็งและเป็นรูปธรรม
สำหรับเป้าหมายในเชิงตัวเลขเราประสบความสำเร็จ รายได้ทะลุเป้าแน่นอน ซึ่งเป็นเป้าหมายในทางรัฐ ในฐานะที่ผมได้รวบรวมเอาบรรดาพนักงาน ผู้ร่วมงานระดับมืออาชีพ มาทำงาน และแก้ไขปัญหาด้านสินทรัพย์ ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับความพอใจ เราทำงาน เราสัมผัสได้ว่าผู้ประกอบการ ประชาชนมีความสุข ความรู้เหล่านี้ไม่ควรที่จะสูญเปล่า จึงควรนำความรู้นวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานต้องคืนกลับสู่สังคม
ดังนั้นวิธีการที่จะเป็นไปได้มากที่สุดคือการมาร่วมกับสถาบันการศึกษาซึ่งเป็นองค์กรที่มีความพร้อม ด้านบุคลากร อุดมการณ์และวิสัยทัศน์ ที่มีเป้าหมายเดียวกันที่จะบูรณาการความรู้คืนสู่สังคม
ด้านรศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
กล่าวว่า หลักสูตรใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ จะเป็นการบูรณาการระหว่างรัฐวิสาหกิจที่มีความรู้ประสบการณ์ทางด้านสินทรัพย์ ทางเรามีความด้านการศึกษา ถ้านำมามาผสมกัน คิดว่าหลักสูตรใหม่นี้จะพัฒนาการบริหารสินทรัพย์หรือหนี้ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เป็นลูกหนี้มีความพึงพอใจมากขึ้น
ในส่วนของมทร.รัตนโกสินทร์ จะพัฒนาหลักสูตรให้เกิดขึ้นโดยเร็วเป็นรูปธรรมลมีความชัดเจนภายในปีนี้ นอกจากนี้ทางวิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการจะเปิดศูนย์บริการให้ความรู้ รวมทั้งการบริหารให้กับลูกหนี้ต่างๆ ให้ลูกหนี้พอใจที่จะชำระหนี้ต่างๆ ได้ดีขึ้นและมีความสุข
อย่างไรก็ตาม หลักสูตรที่ว่านี้จะเป็นหลักสูตรที่เป็นนวัตกรรมด้านการศึกษา น่าจะเป็นหลักสูตรแรกของไทย ซึ่งหลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรในระดับปริญญาโท- เอก เน้นคนที่จะไปเป็นผู้บริหาร ที่จะมาซัพพอร์ตการบริหารสินทรัพย์ เราจะใช้การเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ และการปฏิบัติให้มากขึ้น โดยบ่างเป็นภาคทฤษฎี 30% ภาคปฏิบัติ 70% คาดว่าจะเปิดได้ในปี 62 นี้