ไอเดียเจ๋ง “สิงคโปร์โมเดล” รถไฟฟ้ามวลเบา 14 สาย เชื่อมสถานีหลัก

เสนอไอเดีย ผุดรถฟ้ามวลเบา (Light Rail Transit) 14 สาย เชื่อมระบบขนส่งของรถไฟฟ้าสายหลัก เพิ่มการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเมือง

Advertisement

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์สเปิดเผยว่า ในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ซึ่งปัจจุบันมีการจราจรหนาแน่น ควรจะมีโครงการที่เรียกว่า รถไฟฟ้ามวลเบา หรือ Light Rail Transit (LRT) เช่นเดียวกับของประเทศสิงคโปร์

ทั้งนี้ Light Rail Transit (Light Rapid Transit) หรือรถไฟฟ้ามวลเบา ถือเป็นระบบเสริมของรถไฟฟ้ามาตรฐาน (MRT) โดยเชื่อมในพื้นที่ที่มีโครงการที่อยู่อาศัยหนาแน่น กับพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ ช่วยอำนวยความสะดวกของประชาชนให้สามารถเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนจากย่านที่อยู่อาศัยเข้าสู่ย่านเศรษฐกิจสำคัญได้รวดเร็วขึ้น โดยเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายหลัก

ปัจจุบันประเทศสิงคโปร์มีรถไฟฟ้ามวลเบาให้บริการในพื้นที่ Bukit Panjang ,Sengkang และ Punggol ลักษณะของรถไฟฟ้ามวลเบาสิงคโปร์นั้นจะคล้ายกับระบบรถไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างอาคารท่าอากาศยานของท่าอากาศยานใหญ่ทั่วโลก โดยมากเป็นรถไฟฟ้าตู้เดียวหรือมีไม่กี่ตู้ เพราะไม่ได้มีผู้โดยสารมากมายเช่นรถไฟฟ้ามาตรฐานทั่วไป สิงคโปร์พัฒนาระบบรถไฟฟ้ามวลเขาขึ้นมาเพื่อเชื่อมชุมชนใกล้เคียงกับระบบรถไฟฟ้ามาตรฐานหลักที่มีอยู่ และขณะนี้มี 3 สาย จำนวน 42 สถานี รวมระยะทาง 28.8 กิโลเมตร มีผู้ใช้บริการวันละ 160,000 คนโดยรวม

“ตนขอยกตัวอย่างพื้นที่หนึ่ง คือ Punggol ซึ่งถือเป็นเมืองใหม่ที่มีระบบรถไฟฟ้ามวลเบาวิ่ง พื้นที่นี้มีขนาดประมาณ 9.57 ตารางกิโลเมตร 5,981 ไร่เท่านั้น  แต่บริเวณที่อยู่อาศัยมีขนาดเพียงประมาณ 2,000 ไร่ มีที่อยู่อาศัย 16,000 หน่วย คาดว่าจะสามารถมีประชากรราว 60,000 คน โดยคิดค่าโดยสารระหว่าง 20-25 บาท ซึ่งนับว่าถูกมากสำหรับคนสิงคโปร์ที่มีรายได้มากกว่าคนไทยถึงประมาณ 6 เท่า หรืออีกนัยหนึ่งเท่ากับค่าโดยสารประมาณ 4-6 บาทถ้าเป็นในกรณีประเทศไทย (ถูกกว่าค่ารถประจำทางหรือรถสองแถวเสียอีก)

สำหรับพื้นที่เบื้องต้นที่ควรจะมีการสร้าง LRT นั้น ประกอบไปด้วย 14 เส้นทางสายหลักคือ พื้นที่ต่อไปนี้ ซึ่งสามารถทำ LRT ได้ประกอบด้วย

  1. ถนนพญาไท บรรทัดทอง อังรีดูนังต์
  2. ถนนเจริญกรุง (ถนนตก) ตรอกจันทน์ เซ็นต์หลุยส์
  3. ถนนทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 49 (ซอยกลาง) เอกมัย
  4. ถนนอ่อนนุชและบริเวณใกล้เคียง
  5. ถนนสรรพาวุธและบริเวณใกล้เคียง
  6. ถนนเทียมร่วมมิตร
  7. ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ชานเมือง ประชาสงเคราะห์
  8. ถนนอินทามระ
  9. ถนนรัชดาภิเษก พหลโยธิน
  10. ถนนประชาชื่น ประชาราษฎร์สาย 1
  11. ถนนประดิพัทธ์ อารีย์สัมพันธ์
  12. ถนนพระราม 1 พระราม 6 เพชรบุรี
  13. ถนนสี่พระยา เจริญกรุง สุรวงศ์
  14. ถนนเจริญนคร สมเด็จเจ้าพระยา 

อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาบรรจุอยู่ในแผนระบบขนส่งมวลชนหลัก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งส่วนหนึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรที่มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ลดระยะเวลาการเดินทาง ขณะเดียวกันด้านการลงทุนนั้น หากภาครัฐมองว่าไม่คุ้มทุน สามารถที่จะให้การลงทุนในลักษณะ PPP ให้ภาคเอกชนร่วมทุน หรือจะให้ภาคเอกชนและต่างชาติลงทุนทั้งหมดแต่จะต้องอยู่ภายใต้ร่างกฎหมายที่รัดกุม