กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานเครือข่ายการพัฒนาเอสเอ็มอี ก้าวต่อ “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ” เร่งบูรณาการการช่วยเหลือเอสเอ็มอีครอบคลุมทุกมิติ ตามแนวประชารัฐ พร้อมการสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายใน (Local Economy) ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ตลาด การขับเคลื่อนผลงานนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์ในรูปแบบศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมเพื่ออนาคต การเติมองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ ให้ก้าวไปสู่ Smart SMEs และการส่งเสริมการใช้ระบบดิจิทัลเชื่อมโยงสู่โลกการค้าสมัยใหม่ รวมทั้งการสนับสนุนด้านการเงินผ่านกองทุนต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครบวงจรในการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจพร้อมได้รับเกียรติจาก นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานที่โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ จังหวัดเชียงใหม่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่างานนี้เป็นการเดินหน้าครั้งที่ 2ของงานคลินิกเอสเอ็มอีสัญจรตามแนวประชารัฐที่มีความสำคัญมาก ที่ได้รับความร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะหน่วยงานในพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเจ้าภาพ และกลุ่มบริษัทในภาคเหนือตอนบนทั้ง 8จังหวัดทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูล ฯลฯที่มาร่วมมือกัน โดยในวันนี้เราได้นำเอาชุดมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแบบครบวงจร และเข้าถึงพื้นที่มานำเสนอกับผู้ประกอบการในทุกกลุ่มตั้งแต่ระดับเริ่มต้น หรือStartupsไปจนถึงกลุ่มที่มีความสามารถจะก้าวไปในระดับต่างประเทศได้
ต้องขอขอบคุณทางจังหวัดทั้งภาครัฐและเอกชนหอการค้า สภาอุตสาหกรรมที่ร่วมกันทำงานเข้าถึงผู้ประกอบการทำให้วันนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการในภาคเหนือตอนบนนี้มีคำขอรับความช่วยเหลือเข้ามาแล้วประมาณ 700-800ราย เป็นวงเงินกว่า 1600ล้านบาทโดยที่กองทุนเริ่มทำงานได้ไม่ถึง 1เดือนดีแสดงให้เห็นถึงการตอบรับเป็นอย่างดี และได้มีการอนุมัติไปแล้ว 16รายเป็นวงเงิน 59ล้านบาท พร้อมทั้งที่ยังมีที่ในกระบวนการพิจารณาซึ่งจะเร่งอนุมัติให้อีกหลายรายตั้งแต่รายย่อยระดับ แสนไปจนถึงรายใหญ่ระดับ 10ล้านเราก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนการช่วยเหลือที่ไม่ได้เป็นเงินทุน ตรงนี้ก็สำคัญไม่น้อยเราได้มีการอบรมเสริมทักษะต่างๆให้ผู้ประกอบการอย่างเช่น เรื่องของการตลาดสมัยใหม่ หรือดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งรวมถึงการผลิต การบริหารจัดการหรือแม้แต่เรื่องของบัญชีและการเงินซึ่งเป็นส่วนสำคัญ และจะมีการติดตามผล
อยากจะเรียนว่าในการช่วยเหลือในโครงการนี้มีทั้งที่เป็นเงินทุน และไม่ได้เป็นเงินทุนควบคู่กันไป และเราจะมีการจัดคลินิกแบบนี้ต่อเนื่องกันไปในภูมิภาคอื่นๆอีกต่อไป
โดยมียุทธศาสตร์การพัฒนา จ.เชียงใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ “นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง” (City of Life and Prosperity) ซึ่งมีสาขาธุรกิจที่สำคัญ เช่น อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่า หัตถอุตสาหกรรมเชิงสร้าง สรรค์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจสุขภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นต้น โดยปัจจุบัน จ.เชียง ใหม่ มี เอสเอ็มอี จำนวน 95,911 ราย มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก กทม. ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาห กรรมได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา SMEs มาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับพบว่า SMEs ที่ได้รับการสนับสนุน และพัฒนาในการยกระดับการประกอบการด้านต่าง ๆ ยังขาดปัจจัยสนับสนุนในด้านเงินทุน ที่จะนำไปพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง